简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
จับตาถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่เฟด และรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ สัปดาห์นี้
บทคัดย่อ:ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย ขณะที่เงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่า จากแรงขายจ่ายเงินปันผลและกระแสเงินทุนไหลออกในตลาดบอนด์ นักลงทุนควรจับตารายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย และค่าเงินทั่วโลกในระยะถัดไป

ภาพรวมตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะยังไม่เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้ ขณะเดียวกัน ความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับคู่ค้า และรายงานเศรษฐกิจที่ออกมาดีกว่าคาด ก็ช่วยสนับสนุนทิศทางเชิงบวกของดอลลาร์
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
นักลงทุนควรจับตาอย่างใกล้ชิดต่อ:
- รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายรายการ ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อมุมมองนโยบายการเงิน
- ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งอาจสะท้อนท่าทีในการประชุมรอบถัดไป
- ผลประกอบการของหุ้นเทคโนโลยีฝั่งเอเชีย ที่จะส่งผลต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายในภูมิภาค
แนวโน้มค่าเงินและความผันผวน
แม้เงินดอลลาร์จะแข็งค่ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ในระยะสั้นอาจเผชิญแรงกดดันให้เคลื่อนไหวในกรอบผันผวน (Two-Way Volatility) โดยขึ้นอยู่กับ:
- ทิศทางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ หากยังออกมาดีกว่าคาด ดอลลาร์อาจมีแรงหนุนต่อ
- ความคาดหวังต่อนโยบายดอกเบี้ยเฟด
มุมมองต่อค่าเงินบาท
เงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง จาก:
- โมเมนตัมฝั่งอ่อนค่าที่แข็งแรงขึ้น
- แรงขายจากธุรกรรมจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนไทยให้แก่นักลงทุนต่างชาติ
- แนวโน้มการแข็งค่าของดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ทิศทางเงินบาทยังต้องติดตามความเคลื่อนไหวของ:
- ค่าเงินดอลลาร์
- ราคาทองคำ
- ทิศทางของสกุลเงินอื่นในภูมิภาค
ฟันด์โฟลว์ต่างชาติ
คาดว่าอาจเห็นแรงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเพิ่มเติม ทว่าในตลาดพันธบัตร โดยเฉพาะพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาว อาจเผชิญแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนต่างชาติ
กรอบเงินบาทประเมินในสัปดาห์นี้ 32.95 – 33.75 บาทต่อดอลลาร์
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
- ฝั่งสหรัฐฯ – บรรดาผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ โดยเฉพาะ อัตราเงินเฟ้อ CPI และยอดค้าปลีก (Retail Sales) รวมถึงจับตาพัฒนาการของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า หลังล่าสุด สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราวกับจีน ซึ่งภาพดังกล่าวทำให้ ผู้เล่นในตลาดทยอยคลายกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงหนัก จนทำให้มีการปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด จากที่เคยประเมินไว้ว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 3-4 ครั้ง เป็นเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้ง และเฟดอาจเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน จากที่ตลาดเคยมองไว้ในการประชุมเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะ ประธานเฟด Jerome Powell เพื่อประกอบการประเมินทิศทางนโยบายการเงินเฟด
- ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ ข้อมูลการจ้างงานและอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจอังกฤษในไตรมาสแรกของปีนี้ พร้อมรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ BOE นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของ ECB ด้วยเช่นกัน
- ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสแรกของปีนี้ นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าฝั่งเอเชีย รวมถึงรอลุ้น รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน อย่าง บรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ อย่าง Alibaba, Tencent และ JD.com ซึ่งจะส่งผลต่อบรรยากาศในตลาดการเงินเอเชียได้พอสมควร
- ฝั่งไทย – เรามองว่าผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามสถานการณ์ทางการเมืองของไทยที่เริ่มมีภาพของความไม่แน่นอนปรากฎขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนเป็นสำคัญ สำหรับ แนวโน้มเงินบาทเราประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทมีกำลังมากขึ้น หลังเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซน 33.00 บาทต่อดอลลาร์ และโซน 33.30 บาทต่อดอลลาร์ ได้สำเร็จ อย่างไรก็ดี เงินบาทยังคงเผชิญความเสี่ยง Two-Way Volatility ขึ้นกับแนวโน้มเงินดอลลาร์ ราคาทองคำซึ่งอาจมีจังหวะรีบาวด์ขึ้นบ้าง (แม้จะยังคงอยู่ในช่วงของการพักฐาน Correction Phase) รวมถึงทิศทางบรรดาสกุลเงินฝั่งเอเชีย ที่อาจพอได้แรงหนุนจากอานิสงส์ข้อตกลงทางการค้าชั่วคราวระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน ทั้งนี้ เงินบาทยังคงมีแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าอยู่ โดยในสัปดาห์ 6-9 พฤษภาคม เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ ทว่า เงินบาทอาจพอได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อสินทรัพย์ไทย อย่าง หุ้นไทย จากบรรดานักลงทุนต่างชาติได้ แต่ฝั่งบอนด์อาจทยอยเห็นแรงขายทำกำไรสถานะลงทุนในบอนด์ไทย ในเชิงเทคนิคัลนั้นเงินบาทมีโอกาสกลับมายังอยู่ในแนวโน้มการอ่อนค่าหลังเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซน 33.30 บาทต่อดอลลาร์เมื่อประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following ทั้งนี้ แนวรับของเงินบาท (USDTHB) อาจขยับขึ้นมาแถว 33.00 บาทต่อดอลลาร์ (แนวรับถัดไป 32.75-32.85 บาทต่อดอลลาร์) ส่วนโซนแนวต้านสำคัญจะอยู่ในช่วง 33.50 บาทต่อดอลลาร์ (แนวต้านถัดไป 33.75-33.85 บาทต่อดอลลาร์)
ขอบคุณข้อมูลจาก investing thailand
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

ไม่ตามค่า CPI = พอร์ตสั่น! ทำไมนักเทรดฟอเร็กซ์ ต้องจับตาทุกเดือน
ค่า CPI (Consumer Price Index) คือตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญในตลาด Forex ซึ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ เมื่อตัวเลข CPI สูงกว่าคาด ธนาคารกลางมักปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินแข็ง และหากต่ำกว่าคาด ค่าเงินมักอ่อน นักเทรดจึงใช้ข้อมูล CPI และ Core CPI เพื่อวางแผนกลยุทธ์ ทั้งระยะสั้นและยาว ผู้ที่เข้าใจการตีความตัวเลขนี้จะสามารถใช้ข่าวเศรษฐกิจสร้างโอกาสทำกำไร และบริหารความเสี่ยงได้แม่นยำยิ่งขึ้น

อยากเทรดให้รอด? นี่คือ 3 กลยุทธ์ที่นักเทรดระดับโลกยืนยันว่า “เวิร์กจริง”
การมีกลยุทธ์เทรด Forex ที่ชัดเจนคือกุญแจสำคัญของนักเทรดมืออาชีพ เพราะตลาดไม่ได้วัดกันที่ใครทำนายแม่น แต่ที่ใครบริหารความเสี่ยงและวางแผนได้ดีกว่า บทความนี้นำเสนอ 3 กลยุทธ์ยอดนิยมที่สามารถปรับใช้ได้ทันที: เทรดตามเทรนด์ (Trend Following) เน้นเข้าออเดอร์ตามทิศทางตลาด, เทรดตามข่าว (News Trading) ใช้ประโยชน์จากความผันผวนช่วงประกาศเศรษฐกิจ, และเทรดระยะสั้น (Scalping/Day Trading) เก็บกำไรจากการเคลื่อนไหวสั้น ๆ สุดท้าย กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือ “กลยุทธ์ที่เหมาะกับตัวคุณ” พร้อมวินัยและการบริหารพอร์ตที่มั่นคง

เทรดเดอร์ห้ามพลาด! วิกฤตชัตดาวน์สหรัฐฯ จ่อจบ ดอลลาร์ ทองคำเตรียมสวิงแรง
หลังชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ยืดเยื้อ วุฒิสมาชิกสายกลางเดโมแครตสนับสนุนร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อเปิดหน่วยงานรัฐบาลและจ่ายเงินเดือนย้อนหลังให้พนักงาน ตลาดหุ้นตอบรับทันที ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดขึ้น ดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่า ขณะที่ทองคำอาจถูกเทขาย นักลงทุน Forex ควรจับตาความผันผวนของค่าเงินและนโยบาย FED เนื่องจากความมั่นใจของตลาดเป็นปัจจัยหลักในการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์

เช็กปฏิทินข่าวสำคัญประจําสัปดาห์! มีเหตุการณ์อะไรน่าติดตามบ้าง
ปฏิทินข่าว Forex และเหตุการณ์สำคัญประจําสัปดาห์
WikiFX โบรกเกอร์
GTCFX
ATFX
Exness
VT Markets
octa
FXTM
GTCFX
ATFX
Exness
VT Markets
octa
FXTM
WikiFX โบรกเกอร์
GTCFX
ATFX
Exness
VT Markets
octa
FXTM
GTCFX
ATFX
Exness
VT Markets
octa
FXTM
