简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
Interactive Brokers น่าใช้ไหม! มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง?
บทคัดย่อ:รีวิวโบรกเกอร์ Interactive Brokers

Interactive Broker ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1977 ซึ่งก็ได้เปิดให้บริการมายาวนานถึง 46 ปี โดย Thomas Peterffy สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองกรีนิช คอนเนตทิคัต นอกจากนี้ยังมีสาขาในอีกหลายประเทศ เช่น เอสโตเนีย,ไอร์แลนด์, สิงคโปร์, จีน, ลักเซมเบิร์ก, อินเดีย, ญี่ปุ่น, ฮังการี, รัสเซีย, ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร, แคนาดา, ฮ่องกง, สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา โบรกเกอร์นี้ก็ยังมีสินทรัพย์อื่น ๆ ที่ให้เทรดเดอร์สามารถซื้อขายได้ รวมทั้งหุ้น

Interactive Brokers ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนของออสเตรเลีย (ASIC) เป็นหน่วยงานอิสระของรัฐบาลออสเตรเลียที่ทำหน้าที่กำกับดูแล ภายใต้ใบอนุญาตคือ 000453554

Interactive Brokers ภายใต้การกำกับดูแลของThe Financial Conduct Authority (FCA) เป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินในสหราชอาณาจักร ภายใต้ใบอนุญาตคือ 208159

Interactive Brokers ภายใต้การกำกับดูแลของFinancial Services Agency (FSA) เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินทั้งหมดรวมถึงโบรกเกอร์ Forex ในญี่ปุ่น

Interactive Brokers ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า The Securities and Futures Commission (SFC) ภายใต้ใบอนุญาตคือ ADI249

Interactive Brokers ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรกำกับดูแลการลงทุนของแคนาดา (CIRO) เป็นองค์กรกำกับดูแลตนเองระดับชาติที่ดูแลตัวแทนจำหน่ายการลงทุน

มีประเภทบัญชีดังนี้
มีบัญชีให้เลือกหลากหลายประเภทตามกลุ่มลูกค้า ดังนี้
- Individual, Joint, Trust Accounts
- Family Advisor Account Structure
- Family Office Accounts
- Small Business Accounts
- Advisor Accounts
- Money Manager Accounts
- Broker & FCM Accounts
- Proprietary Trading Group Accounts
- Hedge & Mutual Fund Accounts
- Compliance Officers
- Administrators
- Institutional Hedge Fund Investors

แพลตฟอร์มการเทรด
IBKR Desktop
IBKR Mobile
IBKR APIs
IBKR ForecastTrader
IBKR GlobalTrader
Trader Workstation (TWS)
Client Portal
IMPACT

ช่องทางการฝาก-ถอน ดังนี้
ช่องทางการฝาก-ถอนผ่านธนาคารเท่านั้น ไม่สามารถใช้บัตรเครดิต/เดบิตได้ โดยสกุลเงินหลักมีการรองรับหลายสกุลเงิน
ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
การสนับสนุนลูกค้าผ่านช่องทางโทรศัพท์, Live Chat และเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดย Live Chat ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเพียง 5 วันต่อสัปดาห์
Line: @htfxthailand

ข้อดี
1.มีประเภทบัญชีให้เลือกหลากหลาย
2.ฝ่ายบริการลูกค้ามีช่องทาง Line
ข้อเสีย
1.หน้าเว็บไซต์ไม่รองรับภาษาไทย
2.ไม่รอบรับแพลตฟอร์มการเทรด MetaTrader 4 และ MetaTrader 5

โดยสรุป โบรกเกอร์ Interactive Brokers มีคะแนนประเมินบน WikiFX อยู่ที่ 8.20 /10 อย่างไรโปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และระวังความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบรกเกอร์คลิก https://www.wikifx.com/th/dealer/0001646186.html
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
JustMarkets
D prime
HFM
XM
Exness
Ultima
JustMarkets
D prime
HFM
XM
Exness
Ultima
WikiFX โบรกเกอร์
JustMarkets
D prime
HFM
XM
Exness
Ultima
JustMarkets
D prime
HFM
XM
Exness
Ultima
