简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ตลาดหุ้นเอเชียร่วงหนักสุด ในรอบ 10 ปี หลังโดนภาษีสหรัฐถล่ม
บทคัดย่อ:สงครามการค้าระลอกใหม่ปะทุ! หลังทรัมป์ขึ้นภาษี “เหมารวม” ไทยโดนเต็ม ๆ 37% ส่วนจีนโดน 34% และรีบตอบโต้ทันที ทรัมป์ขู่หนัก หากจีนไม่ยอมถอย เตรียมขึ้นอีก 50% ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงระนาว ขณะต้นทุนสินค้าจีนอาจพุ่งทะลุ 2 เท่าในเวลาอันสั้น!

หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรแบบ “เหมารวม” เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ประเทศไทยโดนเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 37% ส่วนจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ก็ถูกเก็บในอัตรา 34% จุดชนวนสงครามการค้ารอบใหม่ทันที
ต่อมา รัฐบาลจีน ตอบโต้ด้วยมาตรการที่ทรงพลังไม่แพ้กัน โดยขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตราเดียวกันที่ 34%
ล่าสุด (7 เม.ย.) ทรัมป์ออกมาโต้กลับอย่างรุนแรงผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social โดยขู่ว่า หากจีนไม่ยกเลิกมาตรการภาษีภายในวันที่ 8 เม.ย. สหรัฐฯ จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 50% และให้มีผลทันทีในวันที่ 9 เม.ย. พร้อมประกาศว่า “การเจรจากับจีนจะถูกยุติลงทันที” หากไม่มีการถอยจากฝั่งปักกิ่ง

หากขู่จริงกลายเป็นจริง ต้นทุนสินค้านำเข้าจากจีนพุ่งเกือบ 2 เท่า
ปัจจุบัน สินค้าจีนที่นำเข้าสหรัฐฯ ถูกเก็บภาษีรวมแล้ว 54% (20% เดิม + 34% ใหม่) และหากเพิ่มอีก 50% ตามที่ทรัมป์ประกาศ ต้นทุนภาษีจะทะลุถึง 104% หมายความว่าต้นทุนสินค้านำเข้าจะเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แต่ครั้งนี้อาจไม่มีทางออกง่าย
ที่ผ่านมา ทรัมป์เคยใช้กลยุทธ์ขู่ขึ้นภาษีเพื่อเจรจาต่อรองกับประเทศอื่น เช่น ภาษีแอลกอฮอล์จากยุโรป (200%) หรือเหล็ก-อะลูมิเนียมจากแคนาดา (50%) ซึ่งสุดท้ายมักจบลงด้วยการประนีประนอม แต่จีนไม่ใช่พันธมิตรที่สหรัฐฯ สนิทชิดเชื้อเช่นเดิม จึงอาจไม่มีทางลงง่าย ๆ
ตลาดหุ้นทั่วโลกพังทลาย นักลงทุนตื่นตระหนก
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง 2 มหาอำนาจ ส่งผลกระทบทันทีต่อ ตลาดหุ้นทั่วโลก:
- ตลาดหุ้นเอเชีย (เซี่ยงไฮ้, โตเกียว, ซิดนีย์, ฮ่องกง) ร่วงหนักสุดในรอบหลายสิบปี
- ตลาดหุ้นยุโรปร่วงตาม โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารและกลาโหม
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ร่วงแรงสุดในวันเดียว นับตั้งแต่ช่วงเริ่มการระบาดของโควิด-19 ในปี 2020
ผู้เชี่ยวชาญเตือน: ความปั่นป่วนอาจกระทบ “เงินในกระเป๋าคุณ”
นักวิเคราะห์เตือนว่า ความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีนี้ อาจกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คนในหลายมิติ:
- ราคาสินค้านำเข้าอาจพุ่งขึ้น โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์, เสื้อผ้า และของใช้ทั่วไป
- ความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลง อาจกระทบกองทุน, หุ้น, และการจ้างงาน
- เงินเฟ้ออาจกลับมาเร่งตัวขึ้น ขณะที่เฟดยังไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้เร็วตามที่หวัง
ขอบคุณ BBC News
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
JustMarkets
Vantage
octa
IC Markets Global
D prime
AVATRADE
JustMarkets
Vantage
octa
IC Markets Global
D prime
AVATRADE
WikiFX โบรกเกอร์
JustMarkets
Vantage
octa
IC Markets Global
D prime
AVATRADE
JustMarkets
Vantage
octa
IC Markets Global
D prime
AVATRADE
