简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
How to บริหารความเสี่ยงพอร์ตไม่แตกด้วย 5 วิธีนี้!
บทคัดย่อ:5 วิธีบริหารความเสี่ยงในการเทรด Forex

หนึ่งในวิธีการรอดจากการโดนล้างพอร์ต คือการบริหารความเสี่ยงแต่ถ้ากลัวจะยากไป วันนี้แอดเหยี่ยวมี 5 วิธีบริหารความเสี่ยงแบบเข้าใจง่ายๆ มาฝากกันในบทความนี้ เพื่อเพิ่มโอกาศในการอยู่ในตลาด Forex ที่มีความผันผวนเป็นอย่างมากนี้ไปนานๆ แล้ว 5วิธีนี้จะมีอะไรบ้างตามแอดเหยี่ยวมาเลยครับ
1.เรียนรู้หลักการ ‘การทำงานของตลาด Forex’
ก่อนที่จะจัดการเรื่องใด ๆ เทรดเดอร์จำเป็นต้องเข้าใจหลักการทำงานของตลาดก่อน เพื่อให้สามารถอยู่รอดในตลาดได้อย่างมั่นคง ควรพิจารณาว่าจะใช้กลยุทธ์ใดในการเทรด ต้องการลงทุนในระยะสั้นหรือระยะยาว และจะใช้เครื่องมือหรืออินดิเคเตอร์ใดเป็นตัวช่วย สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้พื้นฐานของ Forex โดยทำความเข้าใจหลักการทำงานของตลาดการเงิน ซึ่งจะช่วยให้สามารถจัดการความเสี่ยงในการเทรด Forex ได้ดียิ่งขึ้น

2.การควบคุมการสูญเสีย
การเรียนรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควร Cut loss หรือขายตัดขาดทุน รวมถึงการวาง Stop Loss ทุกครั้งที่เทรด เป็นวิธีจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะมือใหม่ มักอดทนต่อการขาดทุนได้เพราะมีความหวังว่าราคาจะกลับขึ้นหรือลงมาตามที่ต้องการ บางรายถึงกับยอมเปลี่ยนจุดหรือเลื่อน Stop Loss ให้สูงขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม เมื่อได้กำไรกลับรีบออกจากออเดอร์แม้ยังไม่ถึงจุด Take Profit ที่ตั้งไว้ ทั้งนี้เป็นเรื่องของจิตวิทยาการเทรดด้วย
3.เลเวอเรจเป็นเรื่องสำคัญ
เลเวอเรจอาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในการทำกำไรในตลาดที่มีความเสี่ยง แม้จะมีเงินฝากเริ่มต้นเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียที่เทรดเดอร์ควรระวังคือความเสี่ยงในการขาดทุน ดังนั้น เทรดเดอร์จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงที่หลากหลายเพื่อปรับใช้ให้เหมาะกับสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน เนื่องจากเลเวอเรจทำให้นักเทรดมีอำนาจในการซื้อขายมากขึ้น อาจทำให้นักเทรดเข้าออเดอร์ซื้อขายมากเกินไป สมมุติว่านักเทรดควรเทรดแค่ 5 ออเดอร์ แต่เมื่อใช้เลเวอเรจสูง จะทำให้นักเทรดเพิ่มเป็น 10 ออเดอร์ และเมื่อนักเทรดใช้อารมณ์ในการเทรด ความเสี่ยงที่จะล้างพอร์ตก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
4.คำนวณอัตราความเสี่ยงและผลตอบแทน
วิธีสำคัญในการจัดการความเสี่ยงในการขาดทุนคือการตั้งอัตราความเสี่ยงและผลตอบแทน หรือ Risk-reward ratio ที่เหมาะสม เป็นเรื่องธรรมดาที่บางครั้งนักเทรดอาจเทรดขาดทุน เพราะไม่มีนักลงทุนคนใดไม่เคยขาดทุนจริงไหมครับ? แต่คำถามสำคัญที่นักเทรดควรถามตัวเองคือ นักเทรดสามารถขาดทุนได้มากเท่าไหร่? และการลงทุนนั้นให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากแค่ไหนในระยะยาว? ดังนั้น การคำนวณ risk-reward ratio จะมีประโยชน์สำหรับการพิจารณาความคุ้มค่าของการลงทุนนั่นเอง

5.ลดความเสี่ยงด้วยการเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาต
การเทรด Forex กับโบรกเกอร์เถื่อนเป็นหนทางที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากโบรกเกอร์ที่ไม่มีใบอนุญาตอาจไม่ได้ส่งเงินของเทรดเดอร์เข้าสู่ตลาด Forex จริง ๆ พวกเขาสามารถปลอมแปลงกราฟและทำทุกวิถีทางเพื่อให้นักเทรดขาดทุนแล้วเชิดเงินหนีไป หากต้องการลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ไว้ใจได้และมีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่ถูกต้อง เพราะใบอนุญาตเหล่านี้จะเป็นการรับประกันความปลอดภัยในการลงทุนของนักเทรด อย่างที่เรารู้กันนักเทรดสามารถตรวจสอบใบอนุญาต และข้อมูลอื่นๆของโบรกเกอร์ ได้ผ่านเว็บเว็บไซต์ หรือแอป WikiFX
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เด็กขายเค้กสู่เศรษฐีฟอเร็กซ์ร้อยล้าน! เรื่องจริงที่สอนว่าความโลภมีราคา
Sandile Shezi เคยถูกยกย่องว่าเป็นเศรษฐีอายุน้อยที่สุดของแอฟริกาใต้ หลังสร้างชื่อจากการเทรด Forex ตั้งแต่อายุ 23 ปี แต่ความสำเร็จของเขาไม่ไร้ข้อวิพากษ์ เส้นทางชีวิตสะท้อนทั้งแรงบันดาลใจจากการเริ่มต้นศูนย์ และความเสี่ยงจากการบริหารเงินของผู้อื่น เรื่องราวของ Shezi เตือนนักลงทุนว่าการเทรดไม่ใช่ทางลัดสู่ความรวย แต่ต้องอาศัยความรู้ วินัย และความรอบคอบ ไม่ให้ความโลภและภาพลวงนำทาง

กำไรหายไม่รู้ตัว! ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ที่เทรดเดอร์มักมองข้าม
ค่าธรรมเนียมจากโบรกเกอร์เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อกำไรของนักเทรด Forex อย่างเงียบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นสเปรด ค่าคอมมิชชั่น ค่า Swap ค่าฝาก–ถอน หรือค่าธรรมเนียมแฝง การเข้าใจโครงสร้างต้นทุนเหล่านี้ช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนกลยุทธ์ เลือกโบรกเกอร์ให้เหมาะกับสไตล์การเทรด และป้องกันการสูญเสียกำไรโดยไม่จำเป็น นักเทรดมืออาชีพชนะตลาดไม่ใช่เพราะเดาทิศทางถูกเสมอ แต่เพราะบริหารต้นทุนได้อย่างชาญฉลาด

จากปี 2009 ถึงวันนี้! เส้นทางนักลงทุนบิตคอยน์ที่พลิกโลกการเงินทั้งใบ
ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบัน นักลงทุน Bitcoin ได้ผ่านวิวัฒนาการจากกลุ่มนักพัฒนาที่เชื่อในอุดมการณ์เงินดิจิทัล สู่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยและสถาบันการเงินระดับโลก ตลาด Bitcoin สอนบทเรียนสำคัญว่า การอยู่รอดในสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้ขึ้นกับการเดาเร็ว แต่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในความผันผวน การลงทุนด้วยศรัทธาคู่กับความรู้ และการควบคุมอารมณ์ นักลงทุนยุคใหม่ยังใช้เครื่องมือ AI และข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจ ทำให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่สะท้อนทั้งมูลค่าเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง
WikiFX โบรกเกอร์
STARTRADER
Plus500
FOREX.com
XM
EC Markets
FXCM
STARTRADER
Plus500
FOREX.com
XM
EC Markets
FXCM
WikiFX โบรกเกอร์
STARTRADER
Plus500
FOREX.com
XM
EC Markets
FXCM
STARTRADER
Plus500
FOREX.com
XM
EC Markets
FXCM

