简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจสัปดาห์นี้
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (30 ม.ค.) ที่ระดับ 35.38 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมากจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.58 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.25-35.55 บาท/ดอลลาร์ โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 35.38-35.60 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทได้แรงหนุนจากการทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ตามภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ของตลาดการเงินสหรัฐฯ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังได้ปรับลดสถานะถือครองเงินดอลลาร์ (Long USD) ลงบ้างในช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุมเฟดในวันพฤหัสฯ นี้ และนอกเหนือจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ เงินบาทยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการรีบาวนด์ขึ้นของราคาทองคำ ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจพิจารณาขายทำกำไรการรีบาวนด์ของราคาทองคำออกมาบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวมีส่วนช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นแผ่วลงจริงตามที่เราได้ประเมินไว้ (ซึ่งเราได้ Call Short-term Peak ของเงินบาทแถว 35.80-35.90 บาทต่อดอลลาร์ เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา) ทว่า เงินบาทกลับแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องมากกว่าที่เราประเมินไว้ หลังเงินบาทแข็งค่าขึ้นหลุดโซนแนวรับแรกแถว 35.50 บาทต่อดอลลาร์ (ซึ่งจะกลายมาเป็นโซนแนวต้าน) ทำให้เรามองว่า ในช่วงนี้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่อ ทดสอบโซนแนวรับถัดไป 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์ หากบรรยากาศในตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ซึ่งต้องรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทเทคฯ ใหญ่ในสหรัฐฯ รวมถึงรอลุ้นว่านักลงทุนต่างชาติจะทยอยกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทยได้ต่อเนื่องหรือไม่ นอกจากนี้ ในช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุมเฟด เงินบาทอาจพอได้แรงหนุนบ้างจากการปรับสถานะถือครองเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาด (ขายทำกำไรและลดสถานะ Long USD)
ทั้งนี้ เรายังคงประเมินว่าเงินบาทอาจเสี่ยงที่จะผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้างหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นออกมาดีกว่าคาด และยิ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างเชื่อว่า เฟดจะไม่รีบลดดอกเบี้ย หรือรายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซนออกมาแย่กว่าคาด กดดันให้เงินยูโร (EUR) ผันผวนอ่อนค่าลง
สำหรับวันนี้ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากฝั่งยูโรโซน ทั้ง อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปีก่อนหน้า รวมถึงรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของ ECB
ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ เรามองว่าตลาดจะรอจับตารายงานยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (Job Openings) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดย Conference Board อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของเฟด และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว เราประเมินว่าผู้เล่นในตลาดจะติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทเทคฯ ใหญ่ ทั้ง Microsoft และ Alphabet โดยในช่วงนี้ รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนยังคงเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้พอสมควร
ขอบคุณข้อมูลจาก : นายพูน พานิชพิบูลย์
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและมีแนวคิดแบบกระจายศูนย์เหมือนกัน แต่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเลือกแทนเงินสดหรือทองคำในโลกดิจิทัล มันมีโครงสร้างที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเป็นแหล่งเก็บมูลค่า ในทางกลับกัน Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์), NFT (สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน) และการใช้งานอื่น ๆ ในโลก Web3 การที่ Ethereum สามารถรองรับการเขียนโค้ดในธุรกรรมได้ ทำให้มันกลายเป็น "บล็อกเชนสำหรับนักพัฒนา" และมีความเร็วในการทำธุรกรรมที่เหนือกว่า
นับถอยหลังสู่ WikiEXPO Dubai 2024
บทสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญต่ออนาคตของกฎระเบียบทางการเงินและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
จิตวิทยาการเทรด หรือ Mindset คือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การเรียนรู้กลยุทธ์หรือการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ยังต้องเรียนรู้การจัดการอารมณ์ ความกลัว ความโลภ และความอยากเอาชนะ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ Rande Howell นักจิตวิทยาการเทรดชื่อดัง แนะนำว่า การเปลี่ยนมุมมองต่อความล้มเหลว การควบคุมเสียงวิจารณ์ในใจ และการฝึกสมาธิ ช่วยให้เรารับมือกับความไม่แน่นอนในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเทรดที่ดีต้องบาลานซ์ทั้ง ความฉลาดทางปัญญา (IQ) และ ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) เพราะการเทรดไม่ใช่แค่การชนะหรือแพ้ แต่คือเกมแห่งความน่าจะเป็น ที่ต้องอาศัยสติ สมาธิ และวินัยเพื่อความสำเร็จในระยะยาว