简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:แชร์ประสบการณ์การเทรด Forex หลังจากเทรดมาครบ 30 วัน
เรื่องราวในวันนี้แอดเหยี่ยวไปเจอกระทู้หนึ่งใน Pantip เป็นการแชร์ประสบการณ์การเทรด Forex หลังจากเทรดครบ 30 วัน ถึงบทความจากกระทู้นี้จะเก่าแล้ว แต่แอดคิดว่ามีสาระดีดีสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเข้าวงการ แอดเหยี่ยวอยากให้อ่านให้จบนะถึงจะยาวหน่อย เอาเป็นว่ามาเริ่มอ่านกันเลย
เรื่องราวมีอยู่ว่า เจ้าของกระทู้ได้แชร์ประสบการณ์การเทรดที่ได้รับในระยะ 30 วัน จากการเทรด Forex มาให้อ่านกันครับ
เริ่มโดยการที่บอกก่อนว่า เข้ามาตลาด Forex ได้ยังไง อะไรคือตัวผลักดันให้เข้ามา เริ่มต้น ผมเริ่มเล่นหุ้น ความคิดของผมตอนแรกคือ ทำยังไงให้รวยเร็วที่สุด แต่ผมขาดทุนในหุ้น เป็นจำนวนเงิน ประมาณ 4 แสน เพราะตอนนั้นผมคิดแบบโง่ ๆ ว่า ผมจะทำให้ได้ 3-5% ให้ได้ทุกวัน แต่ทำไม่ได้กลับขาดทุนเกือบทุกวัน จากการขาดทุนอย่างหนัก ทำให้ผมเลิกเล่นหุ้นไประยะเวลา 3 ปี และก็กลับมาเล่นใหม่อีกครั้ง เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เนื่องจากธุรกิจที่ทำอยู่ก็แย่มาก ไม่รู้จะทำอะไรดี จึงคิดว่าน่าจะลองมาลงทุนในหุ้นอีกครั้งกับเงินที่เหลืออยู่ไม่มาก
ผมเป็นหนี้โอดี ธนาคาร 8.8 ล้าน ยืมที่บ้านมาอีก 5 ล้าน หุ้นกับคนในครอบครัว เพื่อไปสร้างบ้านขาย บ้านก็ขายไม่ค่อยออก ตอนที่ผมเริ่มเล่น Forex ผมมีเงินเหลืออยู่ ประมาณ 1 แสนบาท สุดท้าย ลูกยังเล็กทั้ง 3 คน ค่าใช้จ่ายเดือนละ 360,0000
มีสต็อคสินค้าขายไม่ออก 5-6 ล้าน ลูกค้าต่างจังหวัด (ให้เครดิต 30 วัน) ก็เก็บเงินยากมาก ลากเช็ค คืนของ ไม่จ่าย
โครงการบ้านอาคารพาณิชย์ อีก 8 ห้อง ก็ยังตั้งขายไม่ได้
อย่างที่ผมบอก ผมกลับมาเล่นหุ้น ผมก็เลยตั้งใจศึกษา Technical เป็นครั้งแรก ตั้งแต่เล่นหุ้นมา เกือบ 10 ปี ไม่เคยรู้เรื่องกราฟ Technical เลยแม้แต่นิดเดียว ผมเล่นหุ้นเริ่มจะกำไร แต่สัปดาห์นึงก็ได้ผลตอบแทน 1-2% ทำให้ผมกลับมาคิดว่า แบบนี้ชีวิตน่าจะลำบาก ทำยังไงก็คงล้างหนี้ไม่ได้แน่ ๆ
และเคยได้ยินตลาด Forex มีแต่คนบอกว่า อย่าเล่น เสี่ยงสูงมาก ตอนนั้น ผมก็คิดว่า ถ้าผมไม่ลอง Forex ก็คงต้องไปยืมเงินป๊ามาเลี้ยงลูก แน่ๆ พี่น้องก็คอยทับถมผมอยู่ ก็เลยตัดสินใจ ลองเล่นโดยใช้เงินปลอม ผมเริ่มเล่น Forex ใช้เงินปลอม ตอนผมใช้เงินปลอมเล่น ผมก็ใช้ Technical หุ้นที่ เรียนมาทั้งหมด ก็มีขาดทุนบ้าง แต่ส่วนมากกำไร แต่สิ่งที่ผมคิดคือ ผมควรใช้เงินจริง วันถัดมาเลย เพราะไม่มีทางเลือกแล้ว เพราะต้องเลี้ยงลูก เลี้ยงเมีย ล้างหนี้
- วันที่ 6 ตุลาคม ผมใช้เงิน 15,0000 ผมทำให้มันเป็นเงิน 75,000 ในวันแรก ผมตกใจว่า ใช่เงินจริงไหม เลยลองถอนออกมาหมดเลย พอเข้าบัญชี ก็รู้แล้วว่าเงินนี่เงินจริง
- วันที่ 7 ตุลาคม ผมก็เอาเงิน จากกำไร 59,000 ผมทำกำไรอีกครั้ง เป็นเงิน ประมาณ 500,000
- วันที่ 8 ตุลาคม ผมตอนนั้นแบบ อารมณ์แบบบอกกับตัวเอง “กูรวยแน่ๆ”
ผมเอาเงิน 400,000 ไปลดวงเงินโอดี 100,000 มาเทรดต่อ วันที่ 3 ของการเล่น Forex ได้มาอีก 400,000 ตอนนั้นฝันถึง Lambo Aston Martin etc.. คืนวันที่ 8 ด้วยความที่ผมประมาทมาก ผมเลยตั้ง Order ไว้เยอะมาก ตอนนั้นใช้ Leverage 1:2000 และผมก็เข้านอน คือ คิดว่าตอนเช้ามา 500,0000 น่าจะกลายเป็น 1-2 ล้าน
วันที่ 9 ตื่นเช้ามาจาก 5 แสน เหลือ 300 บาท โดนลาก 8 เส้นยาว ๆ ติดกัน ปกติ SL ผมตั้งก็เหมือนไม่ตั้ง ผมตั้งห่างไป 300 pips ผมเลยกลับมาคิดทำยังไงต่อดี เงินได้มาล้านกว่า ทำบุญไป 300,000 อีก 500,000 คืนตลาดไปแล้วเหลืออีก 300,000 ตัวเลขที่บอกคร่าว ๆ ประมาณนี้นะครับ คิดในใจ“ต้องเอาคืน” ความคิดตอนนั้นคือความโลภ เข้ามาครอบงำแล้ว เงินที่มีอีก 3-4 แสน จากการกลับเข้ามาเทรดวันที่ 12-16 ตุลาคม เสียหมดครับ ไม่เหลือ ล้างพอร์ตทุกวัน
ทำให้ผมกลับมาคิดมันเกิดอะไรขึ้น? ผมก็ใช้ BB เทคนิคก็เหมือนเดิมตอนนี้ผมได้คำตอบคือ ตอนนั้นผมโลภ ตั้ง ออเดอร์เกินตัว เพราะรีบอยากได้เงินกำไรคืน และสภาพตลาดไม่ดีเหมือนวันที่ 6-8 ส่วนวันที่ 12-16 ผมล้างพอร์ต ไม่ต่ำกว่า 7-8 ครั้ง ถ้าไม่ติดเสาร์ อาทิตย์ที่ 17-18 ผมจะตั้งหลักไม่ได้แน่ ตอนนั้นเลยเดินทางกลับมาที่บ้าน อารมณ์แบบเหมือนฝันไป บอกเมียวันที่ 7 ว่า จะรวยแน่ ๆ แล้ว เพราะตอนปิดออเดอร์ ออเดอร์เปิดทีนึง 3-12 ได้เสีย Position 2-4 หมื่น กลับมา 17 เมียเห็นหน้าก็ไม่กล้าถาม
วันที่ 19-21 ผม ระวังในการเทรดมาก เปิดออเดอร์ 0.01 คือเริ่มกลัวแล้ว ไม่กล้าแบบเก่า ก็มานั่ง Scalping ซึ่งผมมองว่าไม่ใช่สไตล์ นั่งอยู่ 1 วัน ให้ลูกน้องมาช่วย Scalping แท่งเขียวแรกซื้อ แท่งแดงเปลี่ยนสีมาขาย ใช้เทคนิค ของ Kana scalping (ลองค้นใน google ดูครับ) ตั้งใจเก็บวันละ 5-10% ทบไปเรื่อย ๆ มันก็เลยได้มาทีละนิดๆ ซึ่งผมก็อึดอัดมาก คือ สไตล์การลงทุนผมจะฮาร์ดคอร์ คือ ถ้าวันนึงไม่ได้เป็นเท่าตัวหรือมากกว่า ก็ล้างพอตไปเลย
คืนวันที่ 23 ผมเริ่มตี Fibo ครับ ผมว่าเป็นจุดเปลี่ยนนะ ผมมั่นใจอย่างนึง Fibo เป็นอะไรที่สำคัญมากในการเทรด Forex ผมเทรดใช้เงินที่ 800 us มานั่งตี Fibo กราฟก็วิ่งลง ติดลบที่ 450 us ตอน 3-4 ทุ่ม แล้วเด้งกลับขึ้นมาที่ ติดลบที่ 87 us ตอนน่าจะ เที่ยงคืน แต่ดูทิศทางการวิ่ง ผมก็หวังว่าวันจันทร์ น่าจะไปทดสอบที่ 100% ตอนนั้น มันขึ้นผ่านเส้นค่อนข้างแรง 50%
เช้าวันที่ 26 จากเดิน ติดลบ 87 วิ่งไปกำไร บวก 200 us สรุปวันที่ 26 จากการที่ผมใช้ Fibo ผมเปลี่ยน 800 us เป็น 3600 us ดูอีกทีพอร์ตวิ่งไป 3600 us
ปัจจุบัน ผมก็ยังคงเทรด ที่กำไรเท่าตัว หรือมากกว่าครับ (สำหรับวันที่ไม่ได้ทำ Hedging) สิ่งที่สำคัญในการเทรด Forex คือ จิตใจ ผมให้ 70% / เทคนิค 25% / ข่าวสาร 5% และเทคนิคที่ผมใช้ คือ Fibo / MACD Alert / BB / SMA 200
จิตใจ มี 3 อย่าง
1. ต้องโลภในจุดที่ควรโลภ และไม่โลภในตอนที่ควรไม่โลภ
2. ไม่กลัว
3. ต้องมีสติ
ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจาก : https://pantip.com/topic/34407929
ในการเทรด Forex แอดว่าอารมณ์ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ การเรียนรู้วิธีการควบคุมอารมณ์ขณะเทรดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสภาพจิตใจของเรามักส่งผลต่อการตัดสินใจ ถ้าไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ อาจเป็นอันตรายต่อผลลัพธ์ที่ตามมา อารมณ์ชั่ววูบ กับการการตัดสินใจที่ผิดพลาด อย่าปล่อยให้อารมณ์เข้ามาครอบงำและอยู่เหนือเหตุผล
คนเราเทรดพลาดกันได้ แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเรานำข้อผิดพลาดตรงนั้นมาศึกษาแล้วนำกลับไปแก้ไขไม่ให้เกิดซ้ำ เพราะนี่เป็นเรื่องปกติของการเทรด มีแพ้บ้าง ชนะบ้าง อย่ามัวแต่โทษตัวเอง และอย่ากลัวที่จะทำ ดึงตัวเองออกมาให้ได้ แอดเหยี่ยวขอให้กำลังใจกับเทรดเดอร์ทุกท่านครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย และที่สำคัญก่อนที่จะเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนก็ตาม แอดอยากให้ศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง ถือว่าแอดเตือนแล้วนะ!!! ตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรีคลิกเลย! https://www.wikifx.com/th/download.html
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและมีแนวคิดแบบกระจายศูนย์เหมือนกัน แต่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเลือกแทนเงินสดหรือทองคำในโลกดิจิทัล มันมีโครงสร้างที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเป็นแหล่งเก็บมูลค่า ในทางกลับกัน Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์), NFT (สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน) และการใช้งานอื่น ๆ ในโลก Web3 การที่ Ethereum สามารถรองรับการเขียนโค้ดในธุรกรรมได้ ทำให้มันกลายเป็น "บล็อกเชนสำหรับนักพัฒนา" และมีความเร็วในการทำธุรกรรมที่เหนือกว่า
นับถอยหลังสู่ WikiEXPO Dubai 2024
บทสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญต่ออนาคตของกฎระเบียบทางการเงินและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
จิตวิทยาการเทรด หรือ Mindset คือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การเรียนรู้กลยุทธ์หรือการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ยังต้องเรียนรู้การจัดการอารมณ์ ความกลัว ความโลภ และความอยากเอาชนะ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ Rande Howell นักจิตวิทยาการเทรดชื่อดัง แนะนำว่า การเปลี่ยนมุมมองต่อความล้มเหลว การควบคุมเสียงวิจารณ์ในใจ และการฝึกสมาธิ ช่วยให้เรารับมือกับความไม่แน่นอนในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเทรดที่ดีต้องบาลานซ์ทั้ง ความฉลาดทางปัญญา (IQ) และ ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) เพราะการเทรดไม่ใช่แค่การชนะหรือแพ้ แต่คือเกมแห่งความน่าจะเป็น ที่ต้องอาศัยสติ สมาธิ และวินัยเพื่อความสำเร็จในระยะยาว
XM
STARTRADER
FP Markets
VT Markets
GO MARKETS
Octa
XM
STARTRADER
FP Markets
VT Markets
GO MARKETS
Octa
XM
STARTRADER
FP Markets
VT Markets
GO MARKETS
Octa
XM
STARTRADER
FP Markets
VT Markets
GO MARKETS
Octa