简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทวิเคราะห์ทองคำ

ราคาทองคำในตลาดโลกปิดร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อคืนวันจันทร์ (25 ต.ค.) หลังนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ท่ามกลางสัญญาณเชิงบวกจาก การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่เริ่มมีความคืบหน้าอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันตลาดยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่กำลังจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดลดลงถึง 118.10 ดอลลาร์ หรือ 2.85% อยู่ที่ระดับ 4,019.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน ราคาทองคำเคยพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,381.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงกว่า 3.2% เนื่องจากตลาดมองว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่เริ่มผ่อนคลายลง
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยผ่านสำนักข่าว NBC News ว่า การเจรจากับจีนมีแนวโน้มบรรลุข้อตกลงทางการค้า ซึ่งอาจทำให้สหรัฐฯ ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 100% ขณะที่จีนก็จะยอมผ่อนคลายการควบคุมการส่งออก “แร่หายาก” ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับสูง
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนหน้าการพบปะของผู้นำทั้งสองประเทศในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนักลงทุนมองว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของ “การคลี่คลายสงครามการค้า” ที่ยืดเยื้อมานาน
แม้นักวิเคราะห์หลายรายยังเชื่อมั่นว่า ราคาทองคำจะมีโอกาสแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในอนาคต แต่ก็เริ่มมีเสียงระวังเพิ่มขึ้น
สำนักวิจัย Capital Economics ได้ออกมาปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำลงสู่ระดับ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2569 โดยให้เหตุผลว่า หากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนดีขึ้น ความต้องการถือทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงอาจลดลง
ตลาดกำลังรอผลการประชุมของ คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28–29 ตุลาคม โดยนักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ การประกาศดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งจะเผยแพร่ในวันที่ 31 ตุลาคม — ตัวเลขนี้เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญสูงสุด เพราะสะท้อนพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ชัดเจนกว่าดัชนี CPI
จากภาพรวมทั้งหมด ราคาทองคำยังถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ โดยเฉพาะในช่วงที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ แต่หากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนดีขึ้นจริง รวมถึงเฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ยตามคาด อาจทำให้แรงซื้อทองคำลดลงชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนระยะยาว ทองคำยังคงเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าในระยะกลาง
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวอินโฟเควสท์
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ

เมื่อคืนวันที่ 21–22 ตุลาคม 2025 ราคาทองคำร่วงแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ ดอกเบี้ยเฟดยังสูง ดอลลาร์แข็งค่า ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น แรงขายทางเทคนิค และความเชื่อมั่นนักลงทุนที่หันไปถือสินทรัพย์เสี่ยงแทน การปรับตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายการเงิน สภาพเศรษฐกิจโลก และความผันผวนของตลาดทองคำ แนะนำให้นักลงทุนมองเป็นโอกาสเรียนรู้และประเมินความเสี่ยง แทนการมองเป็นวิกฤต.

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม โดยสัญญาทองคำ COMEX เดือนธันวาคมพุ่ง 3.47% ปิดที่ 4,359.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการเมืองเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ คาดว่าหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ราคาทองคำอาจแตะ 4,500–5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอนาคต ขณะที่ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการเจรจาการค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ ซึ่งยังเป็นตัวแปรหลักต่อทิศทางทองคำในระยะต่อไป.

ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่แตะ 3,976.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนักลงทุนทั่วโลกหันมาถือสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนตุลาคม ปัจจัยเหล่านี้หนุนให้แนวโน้มราคาทองคำยังคงแข็งแกร่ง และอาจแตะระดับ 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้.

ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ช่วยป้องกันความเสี่ยง แต่ราคามีความผันผวนสูงทั้งขึ้นและลง การลงทุนควรถือทองคำในพอร์ตเพียง 5–15% เพื่อสร้างสมดุล ลดความเสี่ยง และเปิดโอกาสให้ลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ พร้อมติดตามข่าวสารและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
FOREX.com
D prime
FBS
InteractiveBrokers
Exness
TMGM
FOREX.com
D prime
FBS
InteractiveBrokers
Exness
TMGM
FOREX.com
D prime
FBS
InteractiveBrokers
Exness
TMGM
FOREX.com
D prime
FBS
InteractiveBrokers
Exness
TMGM