简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
มือใหม่ต้องรู้! Commodity Market คือกุญแจลับที่ขับเคลื่อนวงการ Forex
บทคัดย่อ:บทความนี้อธิบายความเชื่อมโยงระหว่างตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Market) และค่าเงินในตลาด Forex โดยชี้ให้เห็นว่าสินค้าอย่างน้ำมัน ทองคำ หรือสินค้าเกษตรมีอิทธิพลต่อการแข็ง-อ่อนของสกุลเงินต่าง ๆ การทำความเข้าใจความสัมพันธ์นี้ช่วยให้นักเทรดคาดการณ์ทิศทางตลาดได้แม่นยำขึ้น กระจายความเสี่ยง และวางกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เวลาเราได้ยินคำว่า Forex ภาพแรกที่หลายคนมักจะนึกถึงก็คือ “การแลกเปลี่ยนค่าเงิน” ระหว่างสกุลต่าง ๆ แต่ในความจริงแล้ว การเคลื่อนไหวของค่าเงินไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ มันถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยสำคัญมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ Commodity Market หรือ “ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์” ที่หลายคนยังมองข้ามไป
ตลาดแห่งนี้ไม่ได้มีแค่การซื้อขายน้ำมันหรือทองคำ แต่ยังเป็น “ตัวละครลับ” ที่ส่งแรงสั่นสะเทือนให้ค่าเงินวิ่งขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา นักเทรดที่เข้าใจการเคลื่อนไหวของ Commodity Market มักจะมองเกมขาด และสามารถวาง กลยุทธ์ Forex ได้เหนือกว่าคนที่โฟกัสเพียงกราฟค่าเงิน
Commodity Market คืออะไร?
หลายคนที่เริ่มต้นเข้ามาใน วงการ Forex อาจคุ้นกับคำว่า ค่าเงิน (Currency) เป็นหลัก แต่จริง ๆ แล้ว อีกหนึ่งตลาดที่มีผลโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินก็คือ Commodity Market
Commodity Market คือ ตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น
- พลังงาน (น้ำมันดิบ, ก๊าซธรรมชาติ)
- โลหะมีค่า (ทองคำ, เงิน, แพลทินัม)
- สินค้าเกษตร (ข้าว, กาแฟ, ถั่วเหลือง ฯลฯ)
ซึ่งราคาของสินค้าเหล่านี้ไม่ได้แค่สะท้อนถึงอุปสงค์-อุปทาน แต่ยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อเศรษฐกิจ และแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อ ค่าเงินในตลาด Forex ด้วย

Commodity Market กับความเชื่อมโยงในวงการ Forex
แอดเหยี่ยวขอเล่าตรงนี้แบบง่าย ๆ ว่า ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์กับค่าเงินเดินไปด้วยกันเสมอ
- น้ำมันแพง ค่าเงินประเทศผู้นำเข้าอ่อนค่า
เช่น ญี่ปุ่นนำเข้าน้ำมันจำนวนมาก หากราคาน้ำมันพุ่งขึ้น ค่าเงินเยน (JPY) มักจะอ่อนค่าลง
- ทองคำกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)
ทองคำมักเคลื่อนไหวสวนทางกับดอลลาร์ ถ้าความกังวลเศรษฐกิจสูง นักลงทุนหนีไปซื้อทอง ทำให้ทองขึ้น ดอลลาร์มักจะอ่อนค่า
- สินค้าเกษตรกับประเทศผู้ส่งออก
อย่างบราซิลส่งออกกาแฟ ถ้าราคากาแฟสูง ค่าเงินบราซิลเรียล (BRL) ก็มักได้รับอานิสงส์ด้วย
สรุปง่าย ๆ: การวิเคราะห์ข่าว Commodity Market คือการอ่านล่วงหน้าว่าค่าเงินจะไปทางไหน
ทำไมนักเทรด Forex ควรสนใจ Commodity Market?
- ช่วยคาดการณ์ทิศทางค่าเงิน ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
- กระจายความเสี่ยง เพราะสินค้าบางตัวเคลื่อนไหวสวนทางค่าเงิน
- ใช้เป็นสัญญาณยืนยันการเทรด เช่น ค่าเงินออสเตรเลีย (AUD) มักเคลื่อนไหวตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะออสเตรเลียส่งออกแร่ธาตุจำนวนมาก
เคล็ดลับการใช้ Commodity Market ในกลยุทธ์ Forex สำหรับมือใหม่
- ติดตามราคาทองคำและน้ำมัน เพราะทั้งคู่เป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจโลก
- เชื่อมโยงข่าวเศรษฐกิจกับคู่เงิน เช่น ข่าวโอเปก (OPEC) มักส่งผลต่อคู่ USD/JPY หรือ USD/CAD
- ใช้กราฟราคาสินค้าโภคภัณฑ์ควบคู่กับค่าเงินที่สัมพันธ์กัน
Commodity Market คือ ตลาดที่ซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อน วงการ Forex การเข้าใจความเชื่อมโยงนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เทรดเดอร์มือใหม่มองตลาดได้รอบด้านมากขึ้น แต่ยังช่วยวาง กลยุทธ์ Forex ได้อย่างชาญฉลาดเหมือนนักเทรดมือโปร
เทรด Forex ไม่ใช่แค่เรื่องของค่าเงิน แต่คือการมอง “ภาพใหญ่” ของเศรษฐกิจโลก และ Commodity Market ก็คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม
โดนหลอกโดนโกง อย่าเก็บไว้คนเดียว แอดเหยี่ยวช่วยได้!
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เด็กชาวไร่สู่นักเทรดระดับตำนาน เส้นทางชีวิต Jesse Livermore
Jesse Livermore เริ่มจากเด็กชาวไร่ไร้ทุน กลายเป็นหนึ่งในนักเก็งกำไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วอลล์สตรีท เขาอ่านเกมตลาดเหมือนอ่านใจคน และสร้างกำไรระดับ “รวยข้ามยุค” แม้ในยุคก่อนกราฟแท่งเทียนหรือ Forex แนวคิดของเขาเรื่องจิตวิทยาตลาด วินัย และการบริหารความเสี่ยงด้วย Stop Loss ยังคงถูกนำมาใช้ในตลาด Forex ทุกยุค Livermore สอนให้เทรดเดอร์เข้าใจว่า ตลาดขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ ไม่ใช่เหตุผล ความสำเร็จมาจากการสังเกตราคา อ่านสัญญาณตลาด และพัฒนากลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่โชคหรือดวงเพียงอย่างเดียว.

เสริมพลังด้วยความรู้ ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน: โครงการให้ความรู้แก่นักลงทุน
กิจกรรมโครงการให้ความรู้แก่นักลงทุน

Headway เหมาะกับคนไทยไหม? รวมเสียงจากผู้ใช้จริง โบรกหน้าใหม่ใช่สำหรับเราไหม
รีวิวโบรกเกอร์

ไม่รู้เวลาเปิด-ปิดตลาด Forex = เสี่ยงพลาดโอกาส! มือใหม่ต้องอ่าน
การรู้ว่า ตลาด Forex ปิดกี่โมง ไม่ใช่แค่ข้อมูลพื้นฐาน แต่คือปัจจัยสำคัญที่กำหนดจังหวะและโอกาสในการเทรด บทความนี้อธิบายเวลาเปิด-ปิดของ 4 ตลาดหลักทั่วโลก ได้แก่ ซิดนีย์ โตเกียว ลอนดอน และนิวยอร์ก พร้อมชี้ว่าช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กซ้อนกันคือช่วงที่ความผันผวนสูงสุด เหมาะกับการเทรดคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD การเข้าใจช่วงเวลาตลาดช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์ได้แม่นยำ ลดความเสี่ยง และใช้จังหวะตลาดให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดไทยที่ต้องปรับเวลาเทรดให้เหมาะกับสภาพตลาดโลก
WikiFX โบรกเกอร์
JustMarkets
EC Markets
D prime
Vantage
XM
AVATRADE
JustMarkets
EC Markets
D prime
Vantage
XM
AVATRADE
WikiFX โบรกเกอร์
JustMarkets
EC Markets
D prime
Vantage
XM
AVATRADE
JustMarkets
EC Markets
D prime
Vantage
XM
AVATRADE
