简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงขายทำกำไร
บทคัดย่อ:ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงขายทำกำไร

ควรติดตามแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ แนวโน้มการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน พร้อมรอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และ รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ
FX Highlight
- สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงทะลุโซนแนวต้าน 34.00 บาทต่อดอลลาร์ ตามจังหวะการปรับฐาน (Correction) ของราคาทองคำ อีกทั้งเงินดอลลาร์ก็พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนของการเจรจายุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
- สำหรับสัปดาห์นี้ ควรรอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) พร้อมติดตามแนวโน้มการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน และแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางเงินยูโร (EUR) นอกจากนี้ ควรรอลุ้น รายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ และติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด
- ในระยะสั้น เงินดอลลาร์อาจพอได้แรงหนุนจากความกังวลต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ รวมถึงความไม่แน่นอนของการเจรจายุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
- ทว่า เงินดอลลาร์ก็อาจถูกกดดันได้บ้าง หรือ ถูกชะลอการแข็งค่าขึ้น หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าคาด โดยเฉพาะ ข้อมูลการจ้างงาน รวมถึง ดัชนี ISM PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ
- อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด หลังล่าสุด รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงหลังที่ออกมาผสมผสาน ได้ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างให้โอกาสราว 74% ที่เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้ (เดือนมิถุนายน กันยายน และธันวาคม) หรืออาจจะกล่าวได้ว่า ผู้เล่นในตลาดได้ priced-in แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดที่มากกว่า คาดการณ์ของเฟดใน Dot Plot ล่าสุด ไปพอสมควรแล้ว
- อนึ่ง ควรจับตาทิศทางเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเงินเยนญี่ปุ่นเสี่ยงเจอความผันผวน Two-Way Volatility โดยเงินเยนอาจกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ ในกรณีที่ตลาดปิดรับความเสี่ยง (จับตาแรงขายหุ้นเทคฯ ใหญ่สหรัฐฯ) หรือในกรณีที่ ตลาดมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot
- ในทางกลับกัน เงินเยนญี่ปุ่น รวมถึงบรรดาสกุลเงินฝั่งเอเชีย และสกุลเงินหลัก อาจอ่อนค่าลงได้พอสมควร หากรัฐบาลสหรัฐฯ เดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้า โดยเฉพาะในส่วนของจีนที่อาจเผชิญภาษีนำเข้าเพิ่มเติม 10%
- นอกเหนือจากแนวโน้มเงินดอลลาร์ เราประเมินว่า เราประเมินว่า ควรจับตาแนวโน้มเงินหยวนจีน (CNY) ทิศทางราคาทองคำ รวมถึงฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ที่ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเงินบาทได้เช่นกัน
- โดยในส่วนของฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาตินั้น เรามองว่า แรงขายสินทรัพย์ไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติอาจดำเนินต่อไปได้ หากนักลงทุนต่างชาติต่างประเมินว่า เงินบาทเสี่ยงอ่อนค่าลงต่อเนื่องชัดเจน
- ในเชิงเทคนิคัล หากประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following การอ่อนค่าของเงินบาททะลุโซน 34.00 บาทต่อดอลลาร์ ชัดเจน ได้ทำให้เงินบาทกลับมาสู่แนวโน้มอ่อนค่าลงอีกครั้ง
- สัญญาณจาก RSI และ MACD ใน Time Frame รายวัน สำหรับ USDTHB สะท้อนว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทมีกำลังมากขึ้น ทั้งนี้ Stochastic ได้เข้าสู่โซน Overbought ชี้ว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจชะลอลงบ้าง หลังอ่อนค่าเร็วและต่อเนื่อง ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ส่วนสัญญาณจาก RSI Stochastic และ MACD ใน Time Frame H4 โดยรวมให้ภาพไม่ต่างกับ Time Frame รายวัน ทว่า RSI และ Stochastic ได้เข้าสู่โซน Overbought สะท้อนโอกาสการอ่อนค่าของเงินบาทที่อาจชะลอลงบ้าง โดยเฉพาะหากเงินบาทอ่อนค่าใกล้โซนแนวต้าน 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนโซนแนวรับเงินบาทดูจะอยู่แถว 34.00-34.10 บาทต่อดอลลาร์
- ทั้งนี้ สัญญาณ จาก RSI Stochastic และ MACD ใน Time Frame H1 สะท้อนว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทอาจชะลอลงบ้าง
- โดยรวมเรามองว่า เงินบาทเสี่ยงทยอยอ่อนค่าลงในลักษณะ Sideways Up หลังโมเมนตัมการอ่อนค่าอาจชะลอลงบ้าง ทั้งนี้ เงินบาทยังมีโซนแนวต้านสำคัญแถว 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับสำคัญจะอยู่ในช่วง 34.00-34.10 บาทต่อดอลลาร์
Gold Highlight
- สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงขายทำกำไรของบรรดาผู้เล่นในตลาด สอดคล้องกับมุมมองของเราที่มองว่า ราคาทองคำเสี่ยงเข้าสู่ช่วงการปรับฐาน
- นอกจากนี้ หากประเมินจากกลยุทธ์ Trend-Following การปรับตัวลดลงของราคาทองคำ (XAUUSD) หลุดโซน 2,870-2,880 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้สะท้อนว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มเข้าสู่ช่วงขาลง หรืออย่างน้อยก็แกว่งตัว Sideways
- เรายังคงมุมมองเดิมว่า ตราบใดที่ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุนราคาทองคำเพิ่มเติม ราคาทองคำก็อาจอยู่ในช่วงการปรับฐานต่อได้ และอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเห็นราคาทองคำกลับมาสู่แนวโน้มขาขึ้นชัดเจนอีกครั้ง
- ทั้งนี้ ในระยะสั้น ควรติดตามปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risk) อย่างการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน และประเด็นแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล Trump 2.0 ที่ความไม่แน่นอนของปัจจัยดังกล่าวอาจพอช่วยหนุนราคาทองคำได้
- นอกจากนี้ บรรยากาศในตลาดการเงิน รวมถึงมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินอขงเฟด จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางราคาทองคำได้
- ในเชิงเทคนิคัล หากประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following ราคาทองคำได้กลับสู่แนวโน้มขาลง หลังปรับตัวลดลงหลุดโซน 2,870-2,880 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาณของทั้ง RSI และ MACD ใน Time Frame รายวัน สะท้อนว่า โมเมนตัมการปรับตัวลดลงของราคาทองคำยังมีกำลังอยู่ ทั้งนี้ Stochastic เริ่มเข้าสู่โซน Oversold ชี้ว่า การปรับตัวลงของราคาทองคำอาจเริ่มชะลอลงได้
- ในส่วน Time Frame H4 และ H1 สัญญาณจากทั้ง RSI, Stochastic และ MACD ต่างสะท้อนภาพไม่ต่างกับ Time Frame รายวัน โดยโมเมนตัมการปรับตัวลดลงของราคาทองคำยังมีอยู่ แต่อาจเริ่มชะลอลงบ้าง โดยเฉพาะในส่วนของ Time Frame H1 ราคาทองคำดูจะมีแนวโน้มแถว 2,830-2,840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสามารถเริ่มทยอยรีบาวด์ขึ้นจากโซนแนวรับได้บ้าง
- โดยรวม เราประเมินว่า ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงการปรับฐาน (Correction) จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งราคาทองคำอาจกลับมาเป็นแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง หากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นเหนือโซน 2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขอบคุณข้อมูลจาก Investing Thailand
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เด็กชาวไร่สู่นักเทรดระดับตำนาน เส้นทางชีวิต Jesse Livermore
Jesse Livermore เริ่มจากเด็กชาวไร่ไร้ทุน กลายเป็นหนึ่งในนักเก็งกำไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วอลล์สตรีท เขาอ่านเกมตลาดเหมือนอ่านใจคน และสร้างกำไรระดับ “รวยข้ามยุค” แม้ในยุคก่อนกราฟแท่งเทียนหรือ Forex แนวคิดของเขาเรื่องจิตวิทยาตลาด วินัย และการบริหารความเสี่ยงด้วย Stop Loss ยังคงถูกนำมาใช้ในตลาด Forex ทุกยุค Livermore สอนให้เทรดเดอร์เข้าใจว่า ตลาดขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ ไม่ใช่เหตุผล ความสำเร็จมาจากการสังเกตราคา อ่านสัญญาณตลาด และพัฒนากลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่โชคหรือดวงเพียงอย่างเดียว.

เสริมพลังด้วยความรู้ ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน: โครงการให้ความรู้แก่นักลงทุน
กิจกรรมโครงการให้ความรู้แก่นักลงทุน

Headway เหมาะกับคนไทยไหม? รวมเสียงจากผู้ใช้จริง โบรกหน้าใหม่ใช่สำหรับเราไหม
รีวิวโบรกเกอร์

ไม่รู้เวลาเปิด-ปิดตลาด Forex = เสี่ยงพลาดโอกาส! มือใหม่ต้องอ่าน
การรู้ว่า ตลาด Forex ปิดกี่โมง ไม่ใช่แค่ข้อมูลพื้นฐาน แต่คือปัจจัยสำคัญที่กำหนดจังหวะและโอกาสในการเทรด บทความนี้อธิบายเวลาเปิด-ปิดของ 4 ตลาดหลักทั่วโลก ได้แก่ ซิดนีย์ โตเกียว ลอนดอน และนิวยอร์ก พร้อมชี้ว่าช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กซ้อนกันคือช่วงที่ความผันผวนสูงสุด เหมาะกับการเทรดคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD การเข้าใจช่วงเวลาตลาดช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์ได้แม่นยำ ลดความเสี่ยง และใช้จังหวะตลาดให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดไทยที่ต้องปรับเวลาเทรดให้เหมาะกับสภาพตลาดโลก
WikiFX โบรกเกอร์
HFM
AVATRADE
IC Markets Global
FXTM
Plus500
JustMarkets
HFM
AVATRADE
IC Markets Global
FXTM
Plus500
JustMarkets
WikiFX โบรกเกอร์
HFM
AVATRADE
IC Markets Global
FXTM
Plus500
JustMarkets
HFM
AVATRADE
IC Markets Global
FXTM
Plus500
JustMarkets
