简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ประเภทคำสั่งซื้อขายที่ต้องรู้ ก่อนลุยตลาดการเงิน
บทคัดย่อ:ประเภทคำสั่งซื้อขายในตลาด Forex ที่สำคัญ มี 4 ประเภท 1.คำสั่งซื้อขายพื้นฐาน (Basic Forex Orders) 2.คำสั่งซื้อขายทันที (Market Orders) 3.คำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Pending Orders) 4.คำสั่งทำกำไรและป้องกันการขาดทุน (Risk Management Orders)

แอดเหยี่ยวขอสรุปให้เหล่านักเทรดทุกท่านเข้าใจถึงประเภทคำสั่งซื้อขายในตลาด Forex ที่สำคัญ และมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1.คำสั่งซื้อขายพื้นฐาน (Basic Forex Orders) คำสั่งซื้อขายพื้นฐาน คือ คำสั่งแรกที่ทุกคนต้องทำความรู้จัก เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นที่จำเป็นในการทำกำไรในตลาดฟอเร็กซ์ และยังเป็นพื้นฐานที่ใช้เชื่อมโยงกับคำสั่งประเภทอื่น ๆ อีกด้วยประเภทคำสั่งซื้อขายพื้นฐาน
- Buy: คำสั่งซื้อคู่เงิน เมื่อคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นในอนาคต
- Sell: คำสั่งขายคู่เงิน เมื่อคาดว่าราคาจะลดลงในอนาคต
ตัวอย่างการใช้งานคำสั่ง Buyหากคุณคาดว่า XAUUSD จะเพิ่มจาก 1.1000 ไป 1.1200 ก็สามารถเปิดคำสั่ง Buy เพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาได้
2.คำสั่งซื้อขายทันที (Market Orders) คำสั่งซื้อขายทันที คือ คำสั่งที่เปิดทันทีตามราคาตลาดปัจจุบันโดยไม่ต้องกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม โดยเลือกได้แค่เพียงซื้อหรือขายคู่เงินเท่านั้นประเภทคำสั่งซื้อขายทันที
- Market Execution: เปิดออเดอร์ทันทีตามราคาตลาด แม้ราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างการดำเนินการ
- Instant Execution: เปิดออเดอร์ทันที แต่หากราคามีการเปลี่ยนแปลงระหว่างดำเนินการ ระบบจะไม่สามารถเปิดออเดอร์ได้ และคุณต้องยืนยันราคาใหม่
3.คำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Pending Orders) คำสั่งซื้อขายล่วงหน้า คือ คำสั่งที่ตั้งไว้ล่วงหน้าเพื่อรอเปิดออเดอร์ตามราคาที่ต้องการในอนาคต ซึ่งแตกต่างจาก Market Orders ที่เปิดทันทีตามราคาปัจจุบันประเภทคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า
- Buy Limit: ซื้อเมื่อราคาลดลงถึงระดับที่กำหนดไว้ เพราะคาดว่าราคาจะกลับตัวขึ้น
- Sell Limit: ขายเมื่อราคาเพิ่มขึ้นถึงระดับที่กำหนดไว้ เพราะคาดว่าราคาจะกลับตัวลง
- Buy Stop: ซื้อเมื่อราคาขึ้นถึงระดับที่กำหนด เพราะคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- Sell Stop: ขายเมื่อราคาลดลงถึงระดับที่กำหนด เพราะคาดว่าราคาจะลดลงต่อเนื่อง
- Buy Stop Limit: คำสั่งที่เริ่มต้นด้วย Buy Stop เมื่อถึงราคานั้นจะเปลี่ยนเป็น Buy Limit
- Sell Stop Limit: คำสั่งที่เริ่มต้นด้วย Sell Stop เมื่อถึงราคานั้นจะเปลี่ยนเป็น Sell Limit
4.คำสั่งทำกำไรและป้องกันการขาดทุน (Risk Management Orders) คำสั่งทำกำไรและป้องกันการขาดทุน คือ คำสั่งที่ช่วยลดความเสี่ยงและรักษากำไรประเภทคำสั่งทำกำไรและป้องกันการขาดทุน
- Take Profit (TP): ปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อได้กำไรตามที่ตั้งเป้าไว้
- Stop Loss (SL): ปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อขาดทุนถึงระดับที่กำหนด
- Trailing Stop: เครื่องมือที่ช่วยเลื่อนจุด Stop Loss ตามการเคลื่อนไหวของราคา
หวังว่าเพื่อน ๆ นักเทรดทุกคนจะสามารถใช้คำสั่งเหล่านี้ได้อย่างเข้าใจและเหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาด Forex กันครับ!
ขอบคุณข้อมูลจาก Traderbobo
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
HFM
Plus500
D prime
FXCM
FOREX.com
EC Markets
HFM
Plus500
D prime
FXCM
FOREX.com
EC Markets
WikiFX โบรกเกอร์
HFM
Plus500
D prime
FXCM
FOREX.com
EC Markets
HFM
Plus500
D prime
FXCM
FOREX.com
EC Markets
