简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
5 อันดับความเสี่ยงที่นักเทรด Forex ต้องพิจารณา
บทคัดย่อ:บทความนี้นำเสนอเกี่ยวกับ "ความเสี่ยงในการเทรดฟอเร็กซ์" ซึ่งนักเทรดควรทราบเพื่อการตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น โดยเน้นปัจจัยที่สำคัญ เช่น ความเสี่ยงจากเลเวอเรจที่อาจทำให้เกิดการขาดทุนมากกว่าที่คาดไว้ อัตราดอกเบี้ยที่ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงจากคู่สัญญาที่อาจทำให้การทำธุรกรรมไม่เสร็จสมบูรณ์ รวมถึงความเสี่ยงจากประเทศที่มีผลต่อเสถียรภาพของสกุลเงิน การทำความเข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถปกป้องทุนและเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้แอดเหยี่ยวมีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “ความเสี่ยงในการเทรดฟอเร็กซ์” ที่นักเทรดทุกคนควรทราบ โดยเฉพาะปัจจัยอย่างเลเวอเรจ อัตราดอกเบี้ย และความเสี่ยงจากคู่สัญญาที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนของเราได้ไม่น้อย การเข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นและปกป้องทุนของเราไว้ได้มากขึ้น มาติดตามกันในบทความนี้ เพื่อเจาะลึกทุกแง่มุมที่สำคัญและเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในการเทรดกันเถอะ!
- ความเสี่ยงจากเลเวอเรจ (Leverage Risks)ในการเทรด Forex เลเวอเรจต้องการเงินลงทุนเบื้องต้นจำนวนเล็กน้อยที่เรียกว่า “มาร์จิน” เพื่อเข้าถึงการเทรดที่มีมูลค่าสูงในสกุลเงินต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงราคาที่เล็กน้อยสามารถทำให้เกิดการเรียกเก็บมาร์จิน (margin calls) ซึ่งนักลงทุนจะต้องจ่ายมาร์จินเพิ่มเติม ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวน การใช้เลเวอเรจอย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดการขาดทุนที่มากกว่าการลงทุนเบื้องต้นได้
- ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Risks)ในหลักสูตรเศรษฐศาสตร์มหภาคพื้นฐาน คุณจะเรียนรู้ว่าอัตราดอกเบี้ยมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของประเทศ หากอัตราดอกเบี้ยของประเทศใดสูงขึ้น สกุลเงินของประเทศนั้นจะมีความแข็งค่าขึ้นเนื่องจากมีการไหลเข้าของการลงทุนในสินทรัพย์ของประเทศนั้น โดยทั่วไปแล้ว สกุลเงินที่แข็งค่าขึ้นจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ในทางตรงกันข้าม หากอัตราดอกเบี้ยลดลง สกุลเงินของประเทศนั้นจะอ่อนค่าลงเมื่อผู้ลงทุนเริ่มถอนการลงทุนออก เนื่องจากลักษณะของอัตราดอกเบี้ยและผลกระทบที่เกิดขึ้นทางอ้อมต่ออัตราแลกเปลี่ยน ความแตกต่างระหว่างมูลค่าสกุลเงินอาจทำให้ราคาฟอเร็กซ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญได้
- ความเสี่ยงจากการทำธุรกรรม (Transaction Risks)ความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมคือความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องกับความแตกต่างของเวลา ระหว่างการเริ่มต้นสัญญากับเวลาที่ทำการชำระเงินเสร็จสิ้น การเทรด Forex เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงก่อนที่การทำธุรกรรมจะเสร็จสิ้น ดังนั้น สกุลเงินอาจถูกซื้อขายในราคาที่แตกต่างกันในช่วงเวลาต่าง ๆ ในระหว่างเวลาทำการยิ่งระยะเวลาต่างกันระหว่างการเข้าทำสัญญาและการชำระเงินเสร็จสิ้นมากเท่าใด ความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ความแตกต่างในเวลาใด ๆ จะทำให้ความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลง ผู้ที่ทำธุรกรรมในสกุลเงินทั้งบุคคลและองค์กรจะต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นและอาจมีภาระหนักขึ้นได้
- ความเสี่ยงจากคู่สัญญา (Counterparty Risk)คู่สัญญาในธุรกรรมทางการเงินคือบริษัทที่จัดหาสินทรัพย์ให้กับนักลงทุน ดังนั้น ความเสี่ยงจากคู่สัญญาจึงหมายถึงความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้จากดีลเลอร์หรือโบรกเกอร์ในธุรกรรมเฉพาะ ในการเทรดฟอเร็กซ์ สัญญาซื้อขายแบบสปอตและฟอร์เวิร์ดบนสกุลเงินจะไม่ได้รับการรับประกันโดยตลาดหรือศูนย์การชำระเงิน ในการซื้อขายสกุลเงินแบบสปอต ความเสี่ยงจากคู่สัญญาจะมาจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้สร้างตลาด ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวน คู่สัญญาอาจไม่สามารถหรือไม่ยินดีที่จะปฏิบัติตามสัญญาได้
- ความเสี่ยงจากประเทศ (Country Risk)เมื่อพิจารณาตัวเลือกในการลงทุนในสกุลเงิน ต้องประเมินโครงสร้างและความเสถียรของประเทศที่ออกสกุลเงินนั้น ในหลายประเทศที่กำลังพัฒนาและประเทศโลกที่สาม อัตราแลกเปลี่ยนจะถูกตรึงไว้กับสกุลเงินที่เป็นผู้นำโลก เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ในกรณีนี้ ธนาคารกลางจะต้องรักษาสำรองที่เพียงพอเพื่อรักษาอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ความไม่เสถียรของสกุลเงินสามารถเกิดขึ้นได้จากการขาดดุลการชำระเงินบ่อย ๆ และส่งผลให้สกุลเงินนั้นมีมูลค่าลดลง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเทรดฟอเร็กซ์และราคาต่าง ๆ ได้
สรุปด้วยความเสี่ยงที่มีมากมาย การขาดทุนที่เกี่ยวข้องกับการเทรดฟอเร็กซ์อาจมากกว่าที่คาดคิดในตอนแรก เนื่องจากธรรมชาติของการเทรดแบบมีเลเวอเรจ ค่าธรรมเนียมเริ่มต้นที่น้อยอาจนำไปสู่การขาดทุนที่มากมายและสินทรัพย์ที่ไม่มีสภาพคล่อง นอกจากนี้ ความแตกต่างของเวลาและปัญหาทางการเมืองสามารถส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อสถานการณ์ทางการเงินและสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ แม้ว่าสินทรัพย์ฟอเร็กซ์จะมีปริมาณการเทรดสูงที่สุด แต่ความเสี่ยงก็ชัดเจนและอาจนำไปสู่การขาดทุนที่รุนแรงได้
ขอบคุณข้อมูลจาก investopedia
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
Exness
Plus500
STARTRADER
FXTM
EC Markets
JustMarkets
Exness
Plus500
STARTRADER
FXTM
EC Markets
JustMarkets
WikiFX โบรกเกอร์
Exness
Plus500
STARTRADER
FXTM
EC Markets
JustMarkets
Exness
Plus500
STARTRADER
FXTM
EC Markets
JustMarkets
