简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจสัปดาห์นี้
บทคัดย่อ:ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่น่าติดตาม


เหตุการณ์และตัวเลขเศรษฐกิจน่าติดตาม
วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2567
-จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ตัวเลขคาดการ์ณ 243K ตัวเลขครั้งก่อน 241K
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ต.ค.) ตัวเลขคาดการ์ณ 47.5 ตัวเลขครั้งก่อน 47.3
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ต.ค.) ตัวเลขคาดการ์ณ 55.0 ตัวเลขครั้งก่อน 55.2
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
- ฝั่งสหรัฐฯ – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (S&P Manufacturing & Services PMIs) เดือนตุลาคม และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) รวมถึง ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจโดยบรรดาเฟดสาขาต่างๆ (Fed Beige Book) และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะให้ความสนใจกับรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน รวมถึงแนวโน้มผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางตลาดการเงินในช่วงนี้ได้
- ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ อย่าง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของอังกฤษและยูโรโซน รวมถึงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่สำรวจโดย ECB (Inflation Expectations) และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ BOE และ ECB โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า BOE มีโอกาสราว 88% ที่จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อ -50bps ใน 2 การประชุมที่เหลือในปีนี้ ส่วน ECB มีโอกาส 45% ที่จะเร่งลดดอกเบี้ย -50bps ในเดือนธันวาคม
- ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของญี่ปุ่น และอัตราเงินเฟ้อ CPI ของกรุงโตเกียว เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งล่าสุด ผู้เล่นในตลาดคงคาดการณ์ว่า BOJ อาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องได้ในปีหน้า นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น ผลการเลือกตั้งสภาผู้แทน (Lower House Election) ของญี่ปุ่น ในวันอาทิตย์ 27 ตุลาคม นี้ โดยจากสถิติในอดีต เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) มักจะไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างชัดเจน หลังรับรู้ผลการเลือกตั้ง (เนื่องจากส่วนใหญ่ พรรค LDP มักจะครองเสียงข้างมากในสภาได้) ยกเว้น การเลือกตั้งนั้นมีแนวโน้มก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของการเมืองและนโยบายเศรษฐกิจ รวมถึงนโยบายการเงิน อาทิ ในปี 2009 พรรค DPJ สามารถชนะพรรค LDP ได้ หนุนให้เงินเยนญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นราว 4% หลังการเลือกตั้ง 1 เดือน ส่วนปี 2012 พรรค LDP ภายใต้อดีตนายกฯ Shinzo Abe ชนะการเลือกตั้ง นำไปสู่นโยบายเศรษฐกิจ Abenomics ทำให้เงินเยนญี่ปุ่น อ่อนค่าลง กว่า 6% หลังการเลือกตั้ง 1 เดือน ซึ่งการเลือกตั้งสภาผู้แทนที่จะถึงนี้นั้น พรรค LDP ก็อาจยังสามารถครองเสียงข้างมากในสภา ร่วมกับพรรคพันธมิตร Komeito ตามเดิม ซึ่งอาจไม่ส่งผลกระทบต่อเงินเยนญี่ปุ่นอย่างมีนัยสำคัญ แต่หาก พรรค LDP สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้อย่างเบ็ดเสร็จเพียงพรรคเดียว หรือพรรคฝ่ายค้าน CDP พลิกกลับมาชนะการเลือกตั้ง ก็อาจหนุนให้เงินเยนญี่ปุ่น แข็งค่าขึ้นได้ไม่ยาก ส่วนในฝั่งจีน ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกหนี้ชั้นดี (Loan Prime Rate) ประเภท 1 ปี และ 5 ปี จะมีการปรับลดลงหรือไม่ หลังในช่วงก่อนหน้าธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ทยอยลดดอกเบี้ย เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีน นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานผลกำไรภาคอุตสาหกรรม (Industrial Profits) ของจีน ในเดือนกันยายน ว่าจะเริ่มมีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้หรือไม่
- ฝั่งไทย – ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานยอดการส่งออกและนำเข้า (Exports & Imports) และดุลการค้า (Trade Balance) เดือนกันยายน ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ประเมินว่า ยอดการส่งออกของไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง +3.5%y/y ส่วนยอดการนำเข้าก็อาจขยายตัวราว +5.5%y/y ทำให้โดยรวมดุลการค้าอาจเกินดุลเกือบ +2 พันล้านดอลลาร์ และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ควรจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ หลังนักลงทุนต่างชาติยังคงทยอยขายสินทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแรงขายสินทรัพย์ไทยดังกล่าวก็มีส่วนชะลอการแข็งค่าของเงินบาท ที่ได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำพอสมควร หลังราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-Time High)
ขอบคุณข้อมูลจาก investing thailand
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้

หมดตัว! นักเทรดไทยเทรด 6 ปี สูญเงินผ่อนบ้าน-รถ บทเรียนราคาแพงที่ต้องอ่าน
เรื่องราวของคุณปลื้ม นักธุรกิจและเทรดเดอร์จากเชียงใหม่ เป็นบทเรียนสำคัญว่าการไล่ตามกำไรเร็วอาจทำให้สูญเสียมหาศาล เขาเริ่มจากธุรกิจส่วนตัวและการเทรดตาม Signal จนเงินเก็บแทบหมดช่วงโควิด แต่หลังกลับมาเรียนรู้เทรดอย่างเป็นระบบ ศึกษา Price Action และสร้างเทคนิคของตัวเอง เขาสามารถปั้นทุน 100 ดอลลาร์เป็น 8,000 ดอลลาร์ได้ แม้ยังไม่สามารถถอนกำไรทุกวัน แต่ได้บทเรียนสำคัญ: อย่าเทรดตามคนอื่น รู้จักความเสี่ยง เรียนรู้เทคนิคของตัวเอง และอดทนต่อความสูญเสีย

จากทองคำสู่น้ำมัน! รู้จัก Commodity Market ตลาดสำคัญที่ขับเคลื่อนค่าเงินทั่วโลก
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Market) เป็นเวทีซื้อขายสินค้ามาตรฐาน เช่น น้ำมัน ทองคำ และสินค้าเกษตร ซึ่งมีผลโดยตรงต่อค่าเงินในตลาด Forex ราคาทองคำ น้ำมัน หรือสินค้าอื่น ๆ สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจโลกและส่งแรงสั่นสะเทือนมายังค่าเงิน นักเทรดที่เข้าใจ Commodity Market จะสามารถจับสัญญาณเศรษฐกิจ วิเคราะห์คู่เงิน เช่น XAU/USD หรือ USD/CAD ได้แม่นยำขึ้น และเพิ่มโอกาสทำกำไรจากตลาด Forex โดยไม่พึ่งพากราฟเพียงอย่างเดียว

Divergence ไม่ใช่แค่สัญญาณกลับตัว มันคือกระจกสะท้อนจิตใจนักเทรด!
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Divergence Forex ในฐานะสัญญาณที่สะท้อนทั้งการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคาและจิตวิทยาตลาด Divergence เกิดเมื่อทิศทางของราคาไม่สอดคล้องกับตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น RSI หรือ MACD ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการกลับตัวหรือการต่อเนื่องของเทรนด์ การเข้าใจและใช้ Divergence ควบคู่กับแนวรับ–แนวต้านและการบริหารความเสี่ยงอย่างมีระบบ จะช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น และเทรดอย่างมีสติในตลาดที่ผันผวน
WikiFX โบรกเกอร์
Plus500
TMGM
Ultima
HFM
VT Markets
FOREX.com
Plus500
TMGM
Ultima
HFM
VT Markets
FOREX.com
WikiFX โบรกเกอร์
Plus500
TMGM
Ultima
HFM
VT Markets
FOREX.com
Plus500
TMGM
Ultima
HFM
VT Markets
FOREX.com
