简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
เปิดมุมมองและแนวทางการลงทุนปี 2024
บทคัดย่อ: เปิดมุมมองและแนวทางการลงทุนปี 2024

ปี 2023 เป็นอีกปีที่ตลาดการลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญหน้ากับความผันผวนต่อเนื่องจากปัจจัยกดดันหลายด้านไม่ว่าจะเป็นทิศทางของธนาคารกลางหลักส่วนใหญ่ที่ยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หรือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ช้ากว่าคาดและปัญหาภาคอสังหาฯ ที่ยังคงย่ำแย่ อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2023 ตลาดการลงทุนทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังตลาดมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed น่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว จาก Dot Plot ของการประชุม Fed ครั้งสุดท้ายของปี 2023 ที่ระบุว่า Fed จะลดดอกเบี้ยราว 0.75% ในปี 2024

และปี 2024 จะเป็นปีสำหรับดอกเบี้ยขาลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อหลายๆ สินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม การคงดอกเบี้ยไว้ในระดับที่สูง ได้ส่งผลกระทบเชิงลบให้เศรษฐกิจโลกมีโอกาสชะลอตัวลง โดยเรามองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสสูงที่จะชะลอตัวลงแบบ Soft Lading ขณะที่ประเทศอื่นๆ ก็มีความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอ รวมถึงยังมีความเสี่ยงเฉพาะในบางประเทศรออยู่ข้างหน้าด้วย ด้วยเหตุนี้การลงทุนในปี 2024 จึงควรเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพเพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น โดยกลุ่มที่เราแนะนำลงทุนและกลุ่มที่เราคิดว่าควรระมัดระวังการลงทุนในปี 2024 มีดังนี้
1. ตราสารหนี้ : ผลตอบแทนของตราสารหนี้ทั่วโลกอยู่ในระดับที่น่าสนใจและสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตย้อนหลัง 10 ปี แม้ว่าปัจจุบันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะปรับตัวลงมาต่ำกว่า 4% หลังอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องและ Fed ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยในปี 2024 ก็ตาม แต่การที่อัตราดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและมีแนวโน้มที่จะปรับลดในปี 2024 จะช่วยให้ผู้ที่ลงทุนในตราสารหนี้ได้รับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่จะลดลง และการลงทุนในตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนเทียบความเสี่ยง มีความคุ้มค่าและน่าสนใจกว่าเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น
2. Digital Assets : สินทรัพย์ดิจิทัล ในปี 2024 นั้นจะมีความชัดเจนของ Spot Bitcoin ETF มากขึ้น และ Bitcoin Halving จะลดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปีโดยประมาณ โดยครั้งถัดไปนั้นคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน 2024
Bitcoin Halving คือ การที่รางวัลจากการขุดจะลดลงทุก ๆ 4 ปี โดยจะลดลง “ครึ่งหนึ่ง” ทุก ๆ 210,000 บล็อก แต่ละบล็อกจะถูกสร้างขึ้นทุก 10 นาที หากนับตั้งแต่ที่ Bitcoin เกิดขึ้นมาบนโลกนี้ ได้เกิด Bitcoin Halving มาแล้วทั้งหมด 3 ครั้ง
• ครั้งที่ 1 ในปี 2012 รางวัลลดลงจาก 50 เหรียญ เป็น 25 เหรียญ
• ครั้งที่ 2 ในปี 2016 ลดลงจาก 25 เป็น 12.5 เหรียญ
• ครั้งที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ปี 2020 ลดลงจาก 12.5 เป็น 6.25 เหรียญ
สำหรับวันที่คาดการณ์ว่าจะเกิดปรากฏการณ์ Halving ครั้งต่อไป คือช่วงสิ้นเดือนเมษายน ปี 2024 (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้) โดยรางวัลจะลดลงจาก 6.25 เป็น 3.125 เหรียญ นอกจากนี้ Bitcoin ยังถูกสร้างขึ้นมาให้มีจำนวนสูงสุดได้ที่ 21,000,000 เหรียญ โดยเมื่อพิจารณาจากการ Halving แล้ว คาดว่าทั้ง 21 ล้านเหรียญจะถูกขุดออกมาครบภายในปี 2140 หรืออีกประมาณ 120 ปีข้างหน้า
3. Artificial Intelligence (AI) : ในปี 2024 ประมาณ 40% ของบริษัททั่วโลกจะมีการใช้แอปพลิเคชันที่มีส่วนประกอบของ AI รวมถึงแชตบอตมากขึ้น เนื่องจากปี 2023 เป็นปีที่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 48% ซึ่งเป็นผลจากการมาของ ChatGPT ทำให้เราเห็นถึงความสามารถและประสิทธิภาพของเทคโนโลยี AI ที่มีต่อเศรษฐกิจและการเติบโตของบริษัทในระยะยาว
4. Electric Vehicle (EV) : มีการคาดการณ์ว่ายอดขายรถ EV ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2030 จากปัจจัยทั่วโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปัจจัยสำคัญคือ นโยบายที่ชัดเจนของประเทศต่างๆ ทั่วโลกในเรื่องสิ่งแวดล้อม
5. Digital – Ecommerce : รายงานจาก Google, Temasek, และ Bain & Company เผยว่า ประเทศกลุ่ม “ASEAN-6” ซึ่งประกอบด้วยอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม จะมียอดขายสินค้าออนไลน์ หรือ Gross Merchandize Volume (GMV) รวมเป็นมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อสิ้นสุดปี 2022 และจะแตะ 3.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025
ซึ่งในช่วง 3 ปีมานี้ ภูมิภาคอาเซียนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นถึงร้อยล้านราย ซึ่งการระบาดของโควิดทำให้มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการติดต่อสื่อสาร ความบันเทิง และซื้อขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านดิจิทัลยังคงมาแรง มีแนวโน้มเติบโต
โดยสรุปปี 2024 จะยังเป็นปีที่ยังคงมีความเสี่ยงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยและประเด็นทางการเมืองจากการเลือกตั้งในหลายๆ ประเทศ แต่การที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกมีแนวโน้มกลับทิศเป็นดอกเบี้ยขาลงจะส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกมีภาพที่สดใสมากขึ้นกว่าปีนี้ ทั้งนี้ด้วยความไม่แน่นอนในมุมความเสี่ยงที่ต้องเผชิญ แอดเหยี่ยวแนะนำเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพเป็นหลัก
ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจาก : Krungsri , TheStandard , Tisco , Bloomberg
ก่อนที่จะเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนก็ตาม อยากให้ศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง !!! ตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี ! https://www.wikifx.com/th/download.html

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เด็กชาวไร่สู่นักเทรดระดับตำนาน เส้นทางชีวิต Jesse Livermore
Jesse Livermore เริ่มจากเด็กชาวไร่ไร้ทุน กลายเป็นหนึ่งในนักเก็งกำไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วอลล์สตรีท เขาอ่านเกมตลาดเหมือนอ่านใจคน และสร้างกำไรระดับ “รวยข้ามยุค” แม้ในยุคก่อนกราฟแท่งเทียนหรือ Forex แนวคิดของเขาเรื่องจิตวิทยาตลาด วินัย และการบริหารความเสี่ยงด้วย Stop Loss ยังคงถูกนำมาใช้ในตลาด Forex ทุกยุค Livermore สอนให้เทรดเดอร์เข้าใจว่า ตลาดขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ ไม่ใช่เหตุผล ความสำเร็จมาจากการสังเกตราคา อ่านสัญญาณตลาด และพัฒนากลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่โชคหรือดวงเพียงอย่างเดียว.

รวบ “จีนเทา” เอี่ยวแชร์ลูกโซ่คริปโต FINTOCH มูลค่ากว่า 456 ล้าน ซุกตัวในบ้านหรู
คดีสะเทือนวงการคริปโตไทยเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 บุกจับกุมนายเหลียง ไอ่-ปิง สัญชาติจีน หัวหน้าเครือข่ายแชร์ลูกโซ่คริปโต “FINTOCH” ที่ก่อคดีหลอกลวงนักลงทุนในจีน มูลค่าความเสียหายกว่า 456 ล้านบาท ภายในบ้านพักหรูย่านวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยพบว่าผู้ต้องหาใช้ชีวิตอย่างหรูหราและครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย FINTOCH ถูกสร้างขึ้นโดยอ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนให้ผลตอบแทนสูง แต่แท้จริงคือโครงการหลอกลวงที่นำเงินนักลงทุนหนีออกนอกประเทศ การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างไทยและจีน และถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญให้ผู้ลงทุนระมัดระวังแพลตฟอร์มคริปโตที่ไม่น่าเชื่อถือ แม้เทคโนโลยีบล็อกเชนจะโปร่งใส แต่ “คน” ยังคงเป็นจุดอ่อนที่เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง.

เสริมพลังด้วยความรู้ ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน: โครงการให้ความรู้แก่นักลงทุน
กิจกรรมโครงการให้ความรู้แก่นักลงทุน

Headway เหมาะกับคนไทยไหม? รวมเสียงจากผู้ใช้จริง โบรกหน้าใหม่ใช่สำหรับเราไหม
รีวิวโบรกเกอร์
WikiFX โบรกเกอร์
FXCM
IC Markets Global
EC Markets
FOREX.com
InteractiveBrokers
JustMarkets
FXCM
IC Markets Global
EC Markets
FOREX.com
InteractiveBrokers
JustMarkets
WikiFX โบรกเกอร์
FXCM
IC Markets Global
EC Markets
FOREX.com
InteractiveBrokers
JustMarkets
FXCM
IC Markets Global
EC Markets
FOREX.com
InteractiveBrokers
JustMarkets
