简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ราคาทองคํายังคงได้รับแรงหนุนหลักจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์
บทคัดย่อ:ราคาทองคํายังคงได้รับแรงหนุนหลักจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์

สรุป ราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําได้รับแรงหนุนหลักจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 50 bps ในการประชุมเดือน ธ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ “ต่ำเกินคาด”
นอกจากนี้ ดัชนีดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการเปิดรับความเสี่ยง (Risk on) ของนักลงทุนหลังจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดบางประการในวันศุกร์ ซึ่งรวมถึงการลดระยะเวลาการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศ สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นแรงขาย ดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ขณะที่ผลสํารวจของ ม.มิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงเกินคาดสู่ระดับ 54.7 ในเดือน พ.ย. จากระดับ 59.9 ในเดือน ต.ค. ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดกดดันให้ดัชนีดอลลาร์ให้ปิดดิ่งลงอีก 1.76% ในวันศุกร์ทําสถิติร่วงลง 2 วันติดกันที่มากสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2009 และเป็นปัจจัยสําคัญที่อยู่เบื้องหลังการทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3เดือนบริเวณ 1,772.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ก่อนที่เช้านี้ ราคาทองคําจะเปิดตลาดลดลงตั้งแต่ในช่วงเช้าของตลาดเอเชีย โดยได้รับแรงกดดันจากการฟื้นตัวของดัชนีดอลลาร์ ขานรับผลการเลือกตั้งกลางเทอมที่พรรคเดโมแครตสามารถรักษาเสียงข้างมากในวุฒิสภาไว้ได้อีก 2 ปี ประกอบกับนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า แม้เฟดอาจพิจารณา “ชะลอ” การปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. แต่ไม่ควรมองว่าเป็นการ “ผ่อนคลาย” ความมุ่งมั่นในการลดอัตราเงินเฟ้อ และมองว่าตอนนี้ยังห่างไกล (a ways off) จากจุดสิ้นสุด (endpoint) ของการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย
ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําลดลง -1.45 ตัน สําหรับวันนี้ติดตามถ้อยแถลงของนางสาเอล เบร์นาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด
ราคาทองคำพยายามทดสอบกรอบราคาด้านบน แม้ว่าจะเกิดแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาแต่การอ่อนตัวลงยังคงจำกัด หากราคาพยายามยืนเหนือโซน แนวรับ 1,752-1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,787-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,787 ระดับ สูงสุดของเดือน พ.ค.)
คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อ $1,752-1,735
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,787-1,803
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,735
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International


ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
FXTM
EC Markets
HFM
AVATRADE
D prime
ATFX
FXTM
EC Markets
HFM
AVATRADE
D prime
ATFX
WikiFX โบรกเกอร์
FXTM
EC Markets
HFM
AVATRADE
D prime
ATFX
FXTM
EC Markets
HFM
AVATRADE
D prime
ATFX
