简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันหลักจากการคาดการณ์การขึ้นอัตราต่อไป
บทคัดย่อ:ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันหลักจากการคาดการณ์การขึ้นอัตราต่อไป

สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 6.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันหลักจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยต่อไป และยังไม่รีบเร่งในการหยุดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควร ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของเฟด(Terminal Rate) จะแตะระดับ สูงสุดประมาณ 5.15% ภายในเดือนมิถุนายน 2023 นั่นทำให้ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้น แตะระดับ 113.15 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งมีความ อ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของเฟด ดีดตัวเหนือระดับ 4.745% แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.174% จนเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำ ร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดในกรอบกว่า 1 เดือนที่ 1,616.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา โดยได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากแรงซื้อ Buy the Dip นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการพักตัวของดัชนีดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาค บริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 54.4 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 จากระดับ 56.7 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 55.5 ซึ่งส่งผลให้ราคา ทองคำฟื้นตัวลดช่วงติดลบ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -7.53 ตัน สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานของสหรัฐทั้งรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง, อัตราการว่างงาน และ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร รวมไปถึงถ้อยแถลงของนางซูซาน คอลลินส์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด
ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,614 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับต่ำสุดของปี 2022) ราคามีโอกาสดีดตัวขึ้นอีกครั้ง แต่กรอบแนวต้าน ด้านบนค่อนข้างจำกัด การขยับขึ้นจะมีแนวต้านโซน 1,651-1,669 ดอลลาร์ต่อออนซ์(1,669ระดับสูงสุดของสัปดาห์นี้) หากไม่ผ่านราคาจะ อ่อนตัวลงอีกครั้ง ทั้งนี้ หากหลุดแนวรับแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,600-1,584 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำ เปิดสถานะขาย $1,651-1,669
จุดทำกำไร ซื้อเพื่อทำกำไร $1,617-1,614
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,669
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
ดูโบรกเกอร์ต่างๆเพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือ
คลิก : https://www.wikifx.com/th/search.html


ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
GTCFX
octa
JustMarkets
D prime
Ultima
HFM
GTCFX
octa
JustMarkets
D prime
Ultima
HFM
WikiFX โบรกเกอร์
GTCFX
octa
JustMarkets
D prime
Ultima
HFM
GTCFX
octa
JustMarkets
D prime
Ultima
HFM
