简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ทองคำได้แรงหนุนจากตัวแรงสหรัฐฯ และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
บทคัดย่อ:สรุปราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.93 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน

สรุปราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.93 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนในกรอบ 1,675.20-1,659.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ระหว่างวันราคาทองคําได้รับ แรงหนุนจาก
(1.) แรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นํารัสเซียประกาศผนวกดินแดน 4 แคว้นของยูเครนได้แก่ โดเนตสก์ มูฮันสก์ เคอร์ซอน และ ซาปอริซเซีย เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ และ
(2.)การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่บางรายการออกมาแย่เกินคาด อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐจาก มหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ ปรับตัวขึ้น “น้อยกว่าศาต” สู่ระดับ 58.6 ในเดือนก.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกที่ลดลงเกินคาด สู่ระดับ 45.7 ในเดือนก.ย. ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว หนุนราคาทองคําใหเดีดตัวขึ้นทดสอบกรอบด้านบนบริเวณ 1,675 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคําปรับตัวลดลงในเวลาต่อมา โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด)จะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวต่อไป หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี Core PCE เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% ขณะที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าเฟดยังคงย้ำจุดยืนเดิมในการเดินปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นสักระยะหนึ่งและจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควร นั่นทำให้ดัชนี ดอลลารฟื้นตัวขึ้นมาปิดตลาดในแดนบวก ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.823% จนเป็นปัจจัยกดดันทองคําในช่วงท้ายตลาด ด้านกองทุน SFOR ถือครองทองคําลดลง -1.45 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตและข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง
ราคาทองคำพยายามสร้างฐานและพยายามทรงตัว ทั้งนี้ หากราคายืนเหนือโซน 1,651-1,633 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจทำให้เห็นการดีดตัวขึ้นเพื่อพยายามทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,676-1,688 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยังไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านได้ อาจเห็นการย่อตัวของราคาลง เพื่อสร้างฐานราคาอีกครั้ง
คำแนะนํา ขายเพื่อทำกําไร $1,676-1,688
จุดทำกําไร เปิดสถานะซื้อ$1,651
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลด $1,633
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International


ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
Vantage
D prime
ATFX
IC Markets Global
octa
Exness
Vantage
D prime
ATFX
IC Markets Global
octa
Exness
WikiFX โบรกเกอร์
Vantage
D prime
ATFX
IC Markets Global
octa
Exness
Vantage
D prime
ATFX
IC Markets Global
octa
Exness
