Elon Musk ทวีตว่า Dogecoin จะกลายเป็น ‘สกุลเงินของอินเทอร์เน็ต’ ร่วมกับผู้ร่วมสร้าง DOGE และ CEO ของ Robinhood

บุคคลสำคัญสามคนในโลกของ crypto ในเวลานี้กล่าวว่าเหรียญ Dogecoin (DOGE) ได้รับความนิยมจนอาจกลายเป็น “สกุลเงินของผู้คน” ภายใต้สถานการณ์ที่เหมาะสม ในการสนทนาบน Twitter เมื่อเร็ว ๆ นี้ มหาเศรษฐี Elon Musk, Billy Markus ผู้ร่วมสร้างเหรียญ DOGE และ Vlad Tenev CEO ของ Robinhood ได้พูดคุยถึงสิ่งที่จะทำให้ DOGE กลายเป็นสกุลเงินของอินเทอร์เน็ต ตามข้อมูลของ Tenev DOGE นั้นควรต้องยังคงค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ต่ำและเร่งความเร็วเวลาของบล็อกของเครือข่ายหรือเวลาที่ใช้ในการนำบล็อกที่อยู่ติดกันมาเรียงเข้าด้วยกัน “DOGE สามารถเป็นสกุลเงินในอนาคตของอินเทอร์เน็ตและผู้คนได้หรือไม่？ ผมกำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น” “อย่างแรกเลยค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจะต้องน้อยมาก ๆ ซึ่งปัจจัยนี้เราก็ได้บรรลุเป้าหมายแล้วในการอัปเดตล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทั่วไปอยู่ทีประมาณ $0.003” “ตามหลักการแล้วเวลาบล็อกที่เกิดขึ้นนั้นควรจะเร็วพอที่จะบันทึกธุรกรรมในบล็อกถัดไปได้โดยใช้เวลาน้อยกว่าที่จะจ่าย ณ ที่จุดขาย แต่ไม่ควรเร็วจนนักขุดเริ่มสร้างการแข่งขันมากเกินไปและสูญสิ้นพลังงานจำนวนมากเกินไปกับเรื่องฉันทามติ” Tenev นั้นกล่าวว่าเวลาบล็อกที่ใช้ในการเกิดของ DOGE นั้นอยู่ที่ 1 นาทีและควรมีการปรับปรุงพัฒนาให้เป็น 10 วินาที ซึ่ง Billy ก็ตอบว่าเขาเลือกเวลาบล็อกเป้น 1 นาทีเพราะ Dogecoin นั้นถูกสร้างขึ้นในปี 2013 ซึ่งนี่ถือเป็นเวลาเกิดบล็อกที่เร็วที่สุดที่จะไม่ก้อให้เกิดปัญหาตามมา “ผมเลือกเวลาบล็อก 1 นาทีเมื่อแปดปีที่แล้วเพราะมีคนใน BitcoinTalk บอกว่าเวลา 45 วินาทีบนเชนอื่นก่อให้เกิดปัญหามากมายและ 60 วินาทีนั้นเร็วที่สุดโดยจะไม่มีปัญหามากมายเกินไปยิ่งเร็วในขณะที่ยังปลอดภัยยิ่งดีกว่า” “ผมเดาว่าโครงสร้างพื้นฐานของเว็บมีการปรับปรุงเพียงพอเมื่อแปดปีเพื่อทดลองในการเพิ่มความเร็ว” ซึ่ง Elon Musk ก็เห็นด้วยกับ Billy “แน่นอน ขนาดและเวลาของบล็อกควรมีเวลาทันพอกันกับส่วนอื่น ๆ ของอินเทอร์เน็ต” Tenev ยังระบุอีกว่า DOGE จำเป็นต้องทำผลงานได้ดีกว่า Visa ยักษ์ใหญ่ด้านบัตรเครดิตในแง่ของจำนวนธุรกรรมที่สามารถดำเนินการได้ต่อวินาทีแต่เขากล่าวว่านี่เป็นปัญหาที่แก้ไขได้โดยง่าย เครือข่ายของ Visa สามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ที่ 65,000 TPS (ธุรกรรมต่อวินาที) ซึ่งในทางทฤษฎี DOGE จะต้องสามารถทำงานได้ดีกว่า Visa อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการทำธุรกรรมนั้นเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10,000