简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
5 เทคนิคเทรด Forex ยังไงให้รวยรับปี 2022
บทคัดย่อ:2022 แล้ว WikiFX ขอพาไปอัพเดตเทคนิคเด็ด ๆ ที่ใช้ในการเทรด Forex กันซะหน่อย รู้ก่อนรวยก่อนใคร เทรดตามเทคนิคนี้ ปีนี้รับรอง ต๊าชชชชช!
2022 แล้ว WikiFX ขอพาไปอัพเดตเทคนิคเด็ด ๆ ที่ใช้ในการเทรด Forex กันซะหน่อย รู้ก่อนรวยก่อนใคร เทรดตามเทคนิคนี้ ปีนี้รับรอง ต๊าชชชชช!

1. กลยุทธ์ Bollinger band
กลยุทธ์ Bollinger band ใช้เพื่อสร้างแนวรับและแนวต้านที่อาจอยู่ในตลาด โดย Bollinger ประกอบด้วยสามแถบ: เส้นกลางคือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) ที่ตั้งค่าเป็นระยะเวลา 20 วัน ในขณะที่เส้นบนและเส้นล่างจะวัดความผันผวนในตลาด
หากตลาด Forex มีความผันผวนสูง แถบจะกว้างขึ้น และหากตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น แถบก็จะเข้าใกล้กันมากขึ้น เมื่อราคาไปถึงแถบด้านนอกของ Bollinger มันมักจะทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้ตลาดดีดตัวกลับเข้าหาค่าเฉลี่ย

2. กลยุทธ์ Momentum indicator
Momentum indicator ใช้ราคาปิดล่าสุดและเปรียบเทียบกับราคาปิดก่อนหน้า จากนั้นจะแสดงเป็นเส้นเดียว โดยปกติแล้วจะอยู่บนแผนภูมิที่แยกจากกันด้านล่างของแผนภูมิราคาหลัก
Indicator โมเมนตัมสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เมื่อให้สัญญาณซื้อเกินและขายมากเกินไป เทรดเดอร์ Forex สามารถใช้เพื่อระบุความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของตลาด และไม่ว่าราคาจะขยับขึ้นหรือลง

3. กลยุทธ์ Bladerunner
กลยุทธ์ Bladerunner เปรียบเทียบราคาตลาดปัจจุบัน กับระดับที่ตัวบ่งชี้บอกว่าควรจะเป็น เมื่อพิจารณาจากความแตกต่างนี้ เทรดเดอร์จะสามารถระบุจุดเข้าและออกสำหรับการซื้อขายแต่ละครั้ง กลยุทธ์นี้ทำหน้าที่เหมือนคมมีดที่แบ่งราคา
กลยุทธ์ Bladerunner ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของราคาอย่างแท้จริง การรวมแท่งเทียน จุดกลับตัว และระดับแนวรับและแนวต้านเพื่อค้นหาโอกาสใหม่ ก่อนที่คุณจะเริ่มใช้กลยุทธ์ Bladerunner สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าตลาดมีแนวโน้ม โดยปกติ

4. กลยุทธ์ MACD
MACD ย่อมาจาก moving average convergence divergence จุดมุ่งหมายของกลยุทธ์ Forex ที่ใช้ MACD คือการระบุจุดสิ้นสุดของแนวโน้มและค้นหาแนวโน้มใหม่ โดย MACD จะปรากฏที่ด้านล่างของกราฟราคาหลัก ประกอบด้วยสามส่วน: เส้น MACD, เส้นสัญญาณ และฮิสโตแกรม
MACD เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่วางแผนความแตกต่างระหว่างตัวบ่งชี้ที่ติดตามเทรนด์สองตัวหรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสองมาบรรจบกันและแยกจากกัน นักเทรดสามารถใช้เส้นดังกล่าวเพื่อระบุสัญญาณซื้อและขายสำหรับสกุลเงินได้ เช่นเดียวกับตลาดอื่น ๆ เช่น สินค้าโภคภัณฑ์และหุ้น
เมื่อเส้น MACD ตัดเหนือเส้นสัญญาณ แสดงว่าเป็นสัญญาณซื้อ และเมื่อเส้นสัญญาณตัดเหนือเส้น MACD แสดงว่าเป็นสัญญาณขาย ในกราฟด้านล่างนี้ เส้น MACD เป็นสีน้ำเงินและเส้นสัญญาณเป็นสีแดง

5. กลยุทธ์ Keltner Channel
Keltner Channel เป็นอินดี้การซื้อขายตามความผันผวน เทรดเดอร์ Forex สามารถใช้กลยุทธ์ Keltner Channel เพื่อกำหนดว่าเมื่อใดที่คู่สกุลเงินได้หลงทางไกลจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
เทรดเดอร์สามารถใช้กลยุทธ์ตรงนี้เพื่อกำหนดว่าสกุลเงินมีการขายมากเกินไปหรือซื้อมากเกินไปโดยการเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของราคากับแต่ละด้านของช่องทาง โดยทฤษฎีกล่าวว่าโดยการวางแผนแถบระยะทางหนึ่งห่างจากค่าเฉลี่ยของราคาตลาด เทรดเดอร์สามารถยืนยันการเคลื่อนไหวของตลาดที่สำคัญได้ หากตลาดเคลื่อนผ่านขอบเขต ราคาตลาดจะยังคงมีแนวโน้มในทิศทางนั้น

ใครอยากเรียนรู้กลยุทธ์ Forex แบบ ต๊าชชชชช อย่างงี้ อย่าลืมดาวน์โหลดแอป WikiFX แล้วมาเรียนรู้กันได้ทุกวันนะจ๊ะ โหลดฟรี!
[ขอบคุณข้อมูล และภาพประกอบจาก www.ig.com]

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
XM
Ultima
Exness
EC Markets
VT Markets
ATFX
XM
Ultima
Exness
EC Markets
VT Markets
ATFX
WikiFX โบรกเกอร์
XM
Ultima
Exness
EC Markets
VT Markets
ATFX
XM
Ultima
Exness
EC Markets
VT Markets
ATFX
