ราคาน้ำมันพุ่ง ปิดปีอย่างแข็งแกร่ง แม้โควิดชะลอกิจกรรมเล็กน้อย

ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันในวันพุธ หลังจากข้อมูลสินค้าคงคลังของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นการขาดทุนทั้งน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากชาวอเมริกันกลับมาเดินทางท่องเที่ยวและเฉลิมฉลองช่วงสิ้นปีอีกครั้ง หลังจากมั่นใจได้ถึงความเสี่ยงที่ลดลงจากโควิดสายพันธุ์โอมิครอน

ราคาน้ำมันดิบก็มีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีการดำเนินการและข้อสังเกตในเชิงบวกในสัปดาห์หน้า เมื่อ OPEC+ กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันระดับโลกจัดการประชุมครั้งแรกสำหรับปีใหม่

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับน้ำมันดิบของสหรัฐ ปิดตลาดวันพุธที่ 58 เซนต์หรือ 0.8% ที่ 76.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล WTI เพิ่มขึ้นมากกว่า 12% ในช่วงหกเซสชั่นที่ผ่านมา หลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 66.04 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม เนื่องจากความกลัวว่าจะมีการติดเชื้อโอมิครอน จนถึงปัจจุบัน WTI เพิ่มขึ้นแล้ว 57%

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ซึ่งเป็นดัชนีมาตรฐานน้ำมันทั่วโลก ปรับตัวขึ้น 29 เซนต์หรือ 0.4% ที่ 79.23 ดอลลาร์ เบรนท์เพิ่มขึ้นมากกว่า 11% จากระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ 72.87 ดอลลาร์ ปีจนถึงปัจจุบัน เบรนท์ปรับตัวขึ้น 53%

หน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐฯ นำโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ได้บอกกับชาวอเมริกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเชื้อโอมิครอนดูเหมือนจะเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงกว่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์โควิด-19 ดั้งเดิมหรือสายพันธุ์เดลต้า โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว

นอกจากนี้ จำนวนผู้ป่วยโควิดที่ได้รับการยืนยันรายวันโดยเฉลี่ยในสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 258,312 ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา ตัวเลขที่รวบรวมโดยสำนักข่าวรอยเตอร์สเผยว่า รายงานไม่ได้ระบุจำนวนผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมมักจะเป็นช่วงที่แข็งแกร่งสำหรับการบริโภคน้ำมันเบนซินและดีเซลในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากผู้คนต่างออกเดินทางเพื่อท่องเที่ยวในช่วงคริสต์มาส ปีใหม่ และวันหยุด กิจกรรมรถบรรทุกก็หนักเช่นกันในช่วงเวลานี้ของปีเนื่องจากต้องวิ่งส่งมอบของขวัญตามฤดูกาล

ข้อมูลสินค้าคงคลังน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐอเมริกา(EIA) ในวันพุธตอกย้ำแนวโน้มเหล่านั้น

น้ำมันดิบคงคลัง ลดลง 3.576 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ธันวาคม EIA รายงานในรายงานสถานะปิโตรเลียมประจำสัปดาห์

การวิเคราะห์ที่รวบรวมข้อมูลโดย Investing.com คาดการณ์ว่าจะมีการลดลงประมาณ 3.233 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์นี้

น้ำมันดิบคงคลังล่าสุดลดลงติดต่อกันที่ 4.715 ล้านและ 4.584 ล้านบาร์เรลในสองสัปดาห์ก่อนซึ่งเกินความคาดหมายเช่นกัน

เนื่องด้วยความไม่ปกติต่อการบริโภคน้ำมัน น้ำมันเบนซินคงคลังของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเมื่อสองสัปดาห์ก่อนโดยมากที่สุดในรอบหกเดือน เนื่องจากความต้องการเชื้อเพลิงลดลงในช่วงสั้นๆ ท่ามกลางกิจกรรมทางสังคมลดลงจากความกังวลที่มีต่อโอมิครอน

แม้ว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การใช้น้ำมัน กลับมาสู่แนวโน้มตามปกติ โดยสินค้าคงคลังลดลง 1.459 ล้านบาร์เรล มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการบริโภคน้ำมันเบนซินจะอยู่ที่ 31,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

สินค้าคงคลังน้ำมันกลั่น ก็ลดลงเช่นกันที่ 1.726 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากที่สุดในรอบสามสัปดาห์ เทียบกับที่คาดว่าจะมีการเบิกจ่าย 59,000 บาร์เรล