简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า “ทำไมคริปโตเคอเรนซีถึงจำเป็นต้องเกิดขึ้นมาบนโลก?” บทความนี้ ‘Wikibit’ จะมาเล่าให้ทุกคนทราบเอง!!
เพื่อนๆ นักลงทุนหลายๆ คน มักก้าวเข้ามาในวงการคริปโตได้ด้วยการรู้จัก ‘Bitcoin’ ที่เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของโลกสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งมันก็ไม่ผิดหากทุกคนเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า “ทำไมคริปโตเคอเรนซีถึงจำเป็นต้องเกิดขึ้นมาบนโลก?” บทความนี้ ‘Wikibit’ จะมาเล่าให้ทุกคนทราบเอง!!
จุดต้นตอของการกำเนิดโลกแห่งคริปโตเคอเรนซีนั้นเริ่มขึ้นในปี 2008 ในช่วงที่ประเทศสหรัฐเกิดวิกฤตค่าเงิน USD หรือ ดอลลาร์สหรัฐ ตกต่ำเป็นอย่างมาก สหรัฐจึงเลือกใช้วิธีการอัดฉีดเงินจำนวน 3,800 ล้านดอลลาร์ เข้าสู่ระบบ โดยไม่ต้องใช้ทองมาประกันมูลค่าในการแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อทำให้จำนวนเงินที่เพิ่มเข้าไปในระบบนั้น ช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศได้ และทำให้ประชาชนมีเงินใช้จ่าย หรือใช้หนี้กันได้แบบปกติ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า “ยังไงเงิน USD ก็มีมูลค่า”
ต่อมาหลายๆ ประเทศที่เกิดภาระหนี้ต่างๆ เห็นประเทศสหรัฐทำเช่นนี้เพื่อแก้ไขปัญหา จึงเลือกที่จะทำตาม ส่งผลให้ประชาชนหลายๆ ภาคส่วนเริ่มตั้งคำถามขึ้นมาว่า “เราจะเชื่อถือรัฐบาลที่ใช้วิธีนี้แก้ปัญหาทางการเงินของประเทศได้อย่างไร? เงินที่ผลิตเพิ่มเข้าระบบด้วยวิธีนี้มันจะไปมีมูลค่าได้อย่างไร?”
และเมื่อมีคำถามเกิดขึ้น ทำให้นักวิชาการต่างๆ เกิดแนวคิดเกี่ยวกับระบบการเงินที่ไม่ถูกควบคุมโดยรัฐบาล หรือธนาคารกลาง ขึ้นมา จนถือกำเนิดสิ่งที่เรียกว่า ‘สกุลเงินดิจิทัล’ หรือ ‘คริปโตเคอเรนซี’ นั่นเอง
โดยนักพัฒนาหลายๆ ท่าน ต่างพยายามนำแนวคิดนี้ไปพัฒนาเพื่อสร้างตัวสกุลเงินดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบขึ้น แต่ก็ยังไม่มีใครทำได้สำเร็จ เพราะทุกครั้งที่สร้างมันขึ้นมานั้น มักจะมีช่องโหว่ที่ต้องแก้ไขตามมาเสมอ จนเวลาผ่านมาถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2008 มีนักโปรแกรมเมอร์ปริศนาที่ใช้นามแฝงว่า ‘Satoshi Nakamoto’ ได้ก่อตั้งเว็บไซต์ที่ชื่อว่า ‘Bitcoin.org’ เพื่อใช้ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกับทีมนักพัฒนา ในการสร้าง ‘Whitpaper’ และให้กำเนิด ‘Bitcoin’ ที่ทำงานบนระบบ ‘Blockchain’ ขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการทำธุรกรรมบนโลกได้อย่างอิสระ ไม่ต้องมีตัวกลาง ไม่มีใครสามารถควบคุมมันได้ แต่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส ซึ่งตอบโจทย์แนวคิดข้างต้นได้อย่างดีเยี่ยม
ทั้งนี้ก็ได้มีการพัฒนาระบบของมันให้มีความสมบูรณ์ และทุกคนสามารถเข้าถึงมันได้มากขึ้น จนถึงวันที่ 3 มกราคม 2009 เป็นวันแรกของโลกที่บล็อกแรกของ ‘Bitcoin’ ถูกขุดขึ้นมา โดยมีชื่อว่า ‘Genesis Block’ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของวงการธุรกิจโลกรวมไปถึงวงการ ‘คริปโตเคอเรนซี’ เลยก็ว่าได้
หลังจากนั้นก็เกิดซื้อขาย และขุด ‘Bitcoin’ กันเกิดขึ้นอย่างเรื่อยๆ จนทำให้แวดวงธุรกิจเริ่มหันมาสนใจ พร้อมเล็งเห็นถึงความสำเร็จ หรือประโยชน์ของนวัตกรรมดังกล่าว ซึ่งพวกเขาได้นำ ‘Bitcoin’ มาเป็นต้นแบบเพื่อสร้าง ‘สกุลเงินดิจิทัล’ อื่นๆ ขึ้นมาแก้ไขปัญหาระบบทางการเงินต่างๆ บนโลก จนกลายเป็นโลกแห่งคริปโตเคอเรนซี่ในทุกวันนี้
อย่างไรก็ตามก่อนการให้กำเนิด ‘Bitcoin’ นี้จะเกิดขึ้น อาจมีสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ ปรากฏขึ้นมาก่อนก็เป็นได้ แต่ด้วยความสมบูรณ์ และตอบโจทย์ของ ‘Bitcoin’ นั้น ส่งผลให้มันถูกขนานนามจากคนทั่วโลกว่าเป็น “สกุลเงินดิจิทัลสกุลแรก แห่งโลกคริปโตเคอเรนซี่” นั่นเอง
ทั้งนี้คุณสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเหรียญ ‘Bitcoin’ หรือเหรียญอื่นๆ สาระความรู้ และรูปแบบกลโกงต่างๆ ในโลกของคริปโตได้ที่แอป ‘Wikibit’ แถมตัวแอปยังสามารถใช้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของ ‘แอปเทรดคริปโต’ ‘เหรียญคริปโต’ และ ‘DeFi’ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุนได้อีกด้วย ตัวช่วยดีๆ แบบนี้ นักลงทุนคริปโตคนไหนยังไม่โหลดติดมือถือไว้ ถือว่าพลาดมากๆ!!!
แอปพลิเคชั่น ‘Wikibit’ เป็นแอปที่คุณสามารถใช้ตรวจสอบ ‘แอปเทรดคริปโต’ ‘เหรียญคริปโต’ และ ‘DeFi’ ได้อย่างสะดวกสบาย เพียงแค่กดค้นหาเท่านั้น ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะปรากฏขึ้นมาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คะแนนความน่าเชื่อถือจากแอป ใบอนุญาต ข้อมูลโครงการ การเยี่ยมชมจากเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการมีอยู่ของบริษัทนั้น ‘Whitepaper’ แถมตัวแอปยังมีการอัปเดตข้อมูลข่าวสาร และรูปแบบกลโกงในวงการคริปโตไว้ให้คุณได้ศึกษาอีกด้วย ถือว่าครบจบในแอปเดียว โหลดเลย!!
ติดตามข้อมูลข่าวสารวงการคริปโต พร้อมตรวจสอบ Exchange ทั่วโลก รวบรวมข้อมูล Shitcoin และโครงการเถื่อน ได้ที่….
App : “WikiBit” (ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ฟรี!)
Facebook : https://www.facebook.com/Wikibit.th/ (กด SEE FRIST เพื่อที่คุณจะไม่พลาดข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ จากทางเพจ)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Gadgeteer
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
วงการคริปโตกับการศึกษาในประเทศก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก เพราะล่าสุดมีนักเทรดท่านหนึ่งได้ตั้งกระทู้ถามในกลุ่มนักเทรดว่า “ในไทยมีมหาลัยที่ไหนบ้าง ที่เปิดสอนเกี่ยวกับคริปโต”
“Apple” มีโอกาสสูงเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ตลาดคริปโตเคอเรนซี หลัง “Tesla” ประกาศซื้อเงิน Bitcoin 1,500 ล้านดอลลาร์ คาดหากเปิดบริการคริปโต ดันราคาหุ้น Apple ทะยาน 25%
OANDA
TMGM
Pepperstone
FP Markets
HFM
FXTM
OANDA
TMGM
Pepperstone
FP Markets
HFM
FXTM
OANDA
TMGM
Pepperstone
FP Markets
HFM
FXTM
OANDA
TMGM
Pepperstone
FP Markets
HFM
FXTM