วิเคราะห์กราฟราคาทองคำ (XAUUSD)

สรุปราคาทองคําวานนี้ปิดดิ่งลงต่ออีก 33.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีกรอบการเคลื่อนไหวในวันมากกว่า 80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคํายังคงได้รับแรงกดดันหลักจากการคาดการณ์ ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟต)อาจเริ่มต้นถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินเร็วกว่าที่ตลาดเคยประเมินไว้ หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาตัวเลขในตลาดแรงงานแข็งแกร่งเกินคาด

นั่นทําให้ ช่วงเช้าวานนี้ในตลาดเอเชีย ราคาทองคําดิ่งลงหลุดแนวรับสําคัญบริเวณ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับต่ําสุดของเดือนมิ.ย. ส่งผลให้เกิดแรงขายตามทางเทคนิคจนฉุดให้ราคาร่วงทํา ระดับต่ําสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.บริเวณ 1,680.23 ติขสลาร์ต่อออนซ์ ก่อนเริ่มมีแรงซื้อ Buy the dip เข้ามาพยุงให้ราคาทองคําฟื้นตัวขึ้น

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคําปรับตัวลงอีกครั้งตัวเลขการ เปิดรับสมัครงานพุ่งขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 10.1 ล้านตําแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนธ.ศ.2000 นอกจากนี้ ทองคํายัง ได้รับแรงกดดันเพิ่มจากความเห็นให้เชิง Hawkish ของนายบอสติก ประธานเฟดแอตแลนตา และนายบาร์บิ้น ประธานเฟดริชมอนด์ ที่กล่าวสอดคล้องกันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่สูงในปีนี้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานประการหนึ่งของเฟตในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมระบุว่าเฟดอาจใกล้เริ่มต้นชะลอการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE นั่นเป็นผลให้ ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 พุ่งแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ 16 ก.ค. จนเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกทองคํา ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -1.74 ต้น สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กจาก NFIE, ประสิทธิภาพการผลิตและประสิทธิภาพต้นทุนแรงงานต่อหน่วย

ระยะสั้นราคากลับมาแกว่งตัวในกรอบ โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ โดยหากวันนี้ราคาทองคํา สามารถยืนเหนือ 1,723-1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจจะเกิดแรงซื้อเก็งกําไร ทําให้มีโอกาสดีด ตัวขึ้นทดสอบโดยแนวต้านที่ 1,749-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนเหนือแนวต้าน ดังกล่าวไม่ได้ราคามีโอกาสอ่อนตัวลงอีกครั้ง

คําแนะนํา แนะนําซื้อขายทํากําไรระยะสั้นจากการแกว่ง ตัวของราคา หากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับโซน 1,723-1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีแรงซื้อเพิ่มที่จะพยุง ราคาไว้ ยังมีโอกาสที่ราคาจะฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นอีกครั้ง