S&P 500 ทำสถิติใหม่จากหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้น เหตุ OPEC+ ประชุมล่าช้า

โดย Yasin Ebrahim

Investing.com - ดัชนี S&P 500 ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นใกล้เคียงจุดสูงสุดระหว่างวัน นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนเป็นอย่างดี ขณะที่มีรายงานว่า OPEC+ เลื่อนการประชุม หลังจากพยายามตกลงกันเรื่องอุปทาน

ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.4% เป็นสถิติใหม่ระหว่างวันที่ 4,2317.60 ดัชนีดาวโจนส์ พุ่งขึ้น 0.27% หรือ 94 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.01%

เชื่อกันว่า OPEC+ กำลังครุ่นคิดที่จะเลื่อนการประชุมออกไป 1 วัน หลังจากที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงเบื้องต้นที่ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียได้บรรลุเมื่อวานนี้ ข้อตกลงดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะเพิ่มผลผลิตขึ้น 500,000 บาร์เรลต่อวัน

ราคาน้ำมันยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018 เนื่องจากผลผลิตที่อาจสูงขึ้นคาดว่าจะรองรับตลาดที่ขาดอุปทานได้ ท่ามกลางความต้องการที่แข็งแกร่ง

“ในความเห็นของเรา การเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม แทบจะไม่สามารถป้องกันการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันได้ เนื่องจากโอเปกคาดการณ์ว่าน้ำมันจะขาดตลาด 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปี” Commerzbank (DE:CBKG) ระบุในรายงาน

หุ้นวัฏจักรที่เคลื่อนไหวควบคู่กับเศรษฐกิจ รวมถึงพลังงาน ยังได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง โดยชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานก่อนตัวเลขการจ้างงานรายเดือนจะประกาศในวันนี้

“เราคาดการณ์ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 620,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 559,000 ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากเราคิดว่านายจ้างเพิ่มความพยายามในการสรรหาบุคลากรและเพิ่มค่าตอบแทน เพื่อดึงคนกลับเข้าสู่การจ้างงาน” Morgan Stanley (NYSE:MS) ระบุในรายงาน

ในขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับผลกระทบจากหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่อ่อนตัวลง ตามการลดลงของหุ้น Micron (NASDAQ:MU)

Micron ร่วงลง 5% เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนคาดว่าราคามาถึงจุดสูงสุดแล้ว โดยชี้ไปที่ปัญหาการขาดแคลนอุปทานในช่วงครึ่งหลังของปี

มีการปรับลดระดับคำแนะนำหุ้น Micron จากการแนะนำให้ซื้อเป็นถือครอง และกล่าวว่าจุดสูงสุดจะเกิดขึ้นในช่วงที่มีการจัดซื้อหน่วยความจำของผู้ผลิตชิปและกรณีที่ลูกค้าเปลี่ยนการจัดการสินค้าคงคลังเป็นแบบกะทันหัน แทนที่จะเผื่อเวลาเอาไว้

ในขณะเดียวกัน หุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ไม่ได้ช่วงผลักดันตลาดสักเท่าไร เนื่องจากพากันปรับตัวลดลง

นอกจาก Facebook (NASDAQ:FB) แล้ว หุ้น Alphabet (NASDAQ:GOOGL), Microsoft (NASDAQ:MSFT, Apple (NASDAQ:AAPL), และ Amazon (NASDAQ:AMZN) ต่างปิดในแดนลบ

ในด้านข่าวอื่น ๆ หุ้น Coinbase Global (NASDAQ:COIN) ลดลงมากกว่า 3% หลังจาก Mizuho กล่าวว่ามันยังขาดความน่าสนใจ โดยย้ำถึงการซื้อขายที่เป็นกลาง เนื่องจากปริมาณการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลที่อ่อนแอลงนั้น คาดว่าจะส่งผลต่อการเติบโตของตลาดแลกเปลี่ยนในช่วงที่เหลือของปี 2021