ดอลลาร์ขึ้นอีก หลังโควิดในยุโรประบาดหนัก ความกังวลเงินเฟ้อกลับมา

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในเช้าวันพฤหัสบดี ในเอเชีย โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร การตอบสนองต่อ COVID-19 ของสหรัฐอเมริกาและยุโรปยังคงขยายกว้างขึ้น เนื่องจากการล็อคดาวน์รอบใหม่และการเปิดตัววัคซีนที่ล่าช้าในบางพื้นที่

ในขณะเดียวกันยุโรปยังคงต่อสู้กับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ระลอกที่สาม อย่างไรก็ตามแม้เยอรมนีจะขยายเวลาล็อคดาวน์ออกไป แต่การปิดกั้นอย่างเข้มงวดก็ล้มเหลวในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยมีผู้คนบางส่วนไม่พอใจกับการจัดการ COVID-19 ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล

แม้แต่ข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกของวันพุธสำหรับเดือนมีนาคมซึ่งรวมถึง {{ecl-136 || ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI)} ของเยอรมันรวมถึง ตัวเลขการผลิต ของยุโรปและ {{ecl-272 | | ภาคบริการ}} PMI ไม่สามารถเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ การล็อคดาวน์ล่าสุดน่าจะหมายความว่าการปรับตัวขึ้นจะไม่เกิดขึ้นจนถึงเดือนเมษายน

ความกังวลของนักลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย B.1.1.7 โควิดสายพันธุ์ใหม่ที่เจอครั้งแรกในสหราชอาณาจักร คิม มุนดีนักยุทธศาสตร์ของธนาคารแห่งออสเตรเลียกล่าว

ค่าเงินยูโรขยับเข้าใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 1.1809 ดอลลาร์แตะก่อนหน้านี้ในเซสชั่นเอเชีย

ย้อนกลับไปดูด้านมหาสมุทรแอตแลนติก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ เจเน็ต เยลเลนและนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวย้ำถึงความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐขณะที่พวกเขาให้การต่อหน้าสภาคองเกรสเป็นวันที่สองในวันพุธ

เยลเลนกล่าวว่าเธอเปิดให้ธนาคารซื้อหุ้นคืนและจ่ายเงินปันผลหนึ่งวันหลังจากที่เธอปรับขึ้นภาษีเพื่อระดมทุนในการอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนอื่น ๆ พาวเวลกล่าวเพิ่มเติมว่าปี 2564 จะเป็นปีที่แข็งแกร่งมากที่สุด

อย่างไรก็ตามภาวะเงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหาสำหรับนักลงทุน อย่างไรก็ตามการหยุดชะงักในห่วงโซ่อุปทานทำให้เกิดแรงกดดันด้านต้นทุนสำหรับผู้ผลิต ในวันพุธ ตัวเลขการผลิต และ ภาคบริการ PMI ระบุว่ากิจกรรมของโรงงานในสหรัฐฯได้รับการสนับสนุนในเดือนมีนาคม