简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:โดย Barani Krishnan Investing.com - ตลาดตราสารหนี้ไม่เชื่อเฟดที่อ้างว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะไม่ขึ้
โดย Barani Krishnan
Investing.com - ตลาดตราสารหนี้ไม่เชื่อเฟดที่อ้างว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะไม่ขึ้นเร็ว ๆ นี้ และทองคำตกเป็นเหยื่ออีกครั้งสำหรับความวิตกกังวลนั้น
ราคาทองคำ เมื่อวันพฤหัสบดีตกลงมาอยู่ที่ 1,851.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลดลง 3.50 ดอลลาร์หรือ 0.2% แม้ว่าเจอโรม พาวเวลล์ประธานธนาคารกลางสหรัฐจะบอกว่าเวลาสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังจะมาถึงใน “ อีกไม่นาน” และ การเพิ่มขึ้นใด ๆ จะต้องเป็นผลมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำมาตรฐานพุ่งสูงถึง 1,857.30 ดอลลาร์ตามที่พาวเวลล์กล่าวไว้ แต่ผู้ค้าพันธบัตรและฟอเร็กซ์รู้ดีว่าพวกเขารู้เกี่ยวกับสถานะของเศรษฐกิจสหรัฐมากกว่าหัวหน้าธนาคารกลางของประเทศซะอีก
อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี กลับมาเป็นบวกเป็นครั้งแรกในสามเซสชันโดยเพิ่มขึ้น 3.3% อยู่ที่ 1.124 ในเวลานั้น
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นทางเลือกในการซื้อขายทองคำลดลง เนื่องจาก พาวเวลยกเลิกการขึ้นอัตราดอกเบี้ยทันที ซึ่งช่วยให้ทองคำปรับตัวขึ้นในช่วงแรก แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะลดต่ำลงในเวลาต่อมา แต่ก็ยังคงอยู่ในแดนลบ แต่นั่นไม่ได้ช่วยให้ทองคำราคาสูงขึ้น
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นได้สร้างความหายนะให้กับราคาทองคำตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยทำให้ราคาร่วงกว่า 100 ดอลลาร์หรือ 4% จากระดับสูงสุดที่ 1,960 ดอลลาร์ที่ทองคำทำได้ช่วงต้นปี
แนวโน้มดังกล่าวยังคงมีอยู่ในวันพฤหัสบดีว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดและกดดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้จะมีเจ้าหน้าที่ของเฟด อย่างพาวเวลล์ที่ขึ้นพูดเป็นคนล่าสุด จะปฏิเสธ ตั้งแต่วันอังคาร
“เราจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไปเพียงเพราะการว่างงานต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน ” พาวเวลล์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี
เฟดได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25% เพื่อช่วยบรรเทาเศรษฐกิจนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเข้าโจมตีสหรัฐอเมริกาในเดือนมีนาคม 2563
เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 5% ในไตรมาสแรกของปีที่แล้วและ 31.4% ในสามเดือนถัดมาก่อนที่จะฟื้นตัวมาอยู่ที่ 33.1% ในไตรมาสที่สาม ส่วนไตรมาสที่สี่ยังไม่สรุปผล
แม้ว่าจะมีการฟื้นตัวในไตรมาสที่สาม แต่ภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงย่ำแย่การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล Covid-19 และมีผู้เสียชีวิตแตะระดับสูงสุดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยมีผู้ป่วยมากกว่า 23 ล้านรายที่เข้าสู่ระบบตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 385,000 ราย
พาวเวลล์กล่าวว่าตลาดแรงงาน“ หย่อนยานมาก” และไม่น่าเป็นไปได้ที่แรงกดดันด้านค่าจ้างจะไปถึงระดับที่สามารถรองรับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้
“นอกจากนี้ปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาคือการขาดแคลนอุปสงค์ของโลก ในประเทศที่เศรษฐกิจก้าวหน้าขนาดใหญ่จำนวนมากในประเทศต่างๆทั่วโลก มีอัตราดอกเบี้ยติดลบอย่างมากและมีพื้นที่เพียงเล็กน้อยสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย”
สหรัฐอเมริกามีคนตกงานมากกว่า 21 ล้านคนระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2563 เนื่องจากการหยุดชะงักทางธุรกิจที่เกิดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการจ้างงาน 2.5 ล้านตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม และ 4.8 ล้านตำแหน่งในเดือนมิถุนายน ก่อนที่การฟื้นตัวจะเริ่มชะลอตัว ทั้งเดือนกันยายนและตุลาคมมีการจ้างงานเพิ่มงานน้อยกว่า 700,000 ตำแหน่งในแต่ละเดือน ในเดือนพฤศจิกายนมีการจ้างงานเพิ่มเพียง 245,000 คนในขณะที่เดือนธันวาคมมีการงานเพิ่มขึ้นเพียง 140,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน
แนวโน้มที่อ่อนแอในตลาดแรงงานยังคงดำเนินต่อไปในปี 2564 โดยชาวอเมริกัน 965,000 คนยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 23% จากสัปดาห์ก่อนหน้าและสูงสุดในรอบเกือบ 5 เดือน
โจ ไบเดน ซึ่งกำลังจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิปดีวันที่ 20 มกราคมได้สัญญาว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาด “ล้านล้านดอลลาร์” โดยจะมีการประกาศเช็ค 2,000 ดอลลาร์สำหรับบุคคลเป็นครั้งแรก และแยกความช่วยเหลือสำหรับรัฐและธุรกิจต่างๆที่ประกาศในวันพฤหัสบดี
เมื่อปีที่แล้วหลังจากการกระตุ้นโควิด -19 ครั้งแรก 3 ล้านล้านดอลลาร์โดยฝ่ายบริหารของทรัมป์ในเดือนมีนาคม ทั้งผลตอบแทนและค่าเงินดอลลาร์ก็ทรุดลง ส่งผลให้โกลด์ฟิวเจอร์สทำสถิติสูงสุดที่เกือบ 2,090 ดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม
แม้ว่าเวลานี้ทั้งสองกำลังเพิ่มขึ้นและทองคำกำลังลดลง - เป็นสถานการณ์ที่ดีสำหรับเงินดอลลาร์ แต่ส่งผลตรงกันข้ามกับทองคำ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
EC Markets
VT Markets
OANDA
Pepperstone
TMGM
FBS
EC Markets
VT Markets
OANDA
Pepperstone
TMGM
FBS
EC Markets
VT Markets
OANDA
Pepperstone
TMGM
FBS
EC Markets
VT Markets
OANDA
Pepperstone
TMGM
FBS