นักวิเคราะห์เตือนนักเทรด Bitcoin ระวังผลกระทบด้านนโยบายคลังของ Fed ที่อาจจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้

ราคา Bitcoin นั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 300% จากปีที่แล้วและพุ่งทะลุจุดสูงสุดเดิมของปี 2017 ซึ่งนี่ว่าเป็นครั้งแรกในรอบสามปีเลยก็ว่าได้ ดูเหมือนว่าราคาของ Bitcoin นั้นเริ่มพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้อีดฉีดเงินมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาด อย่างไรก็ตามในขณะนี้เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มบอกใบ้เป็นนัย ๆ แล้วว่าพวกเขาอาจเริ่ม “ลด” การเข้าซื้อสินทรัพย์เร็วกว่าที่ทุกคนคาดเอาไว้ โดยตอนนี้ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ประธานเฟด Jerome Powell ซึ่งมีกำหนดจะขึ้นพูดในวันพฤหัสบดีนี้ที่มหาวิทยาลัย Princeton University ตามเวลา 12.30 น. EST ในช่วงปีที่ผ่านมานักลงทุนรายใหญ่และสถาบันจำนวนมากต่างแห่พากันหันมาลงทุนใน Bitcoin เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบไม่จำกัดของ Fed โดยนาย Paul Tudor Jones ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ระดับโลกได้เรียก Bitcoin ว่าเป็น “ม้าตัวที่เร็วที่สุด” ในการแข่งขันเพื่อเอาชนะภาวะเงินเฟ้อ บางคนเริ่มกลัวว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ ลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มันอาจส่งผลทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “อารมณ์ฉุนเฉียว” ดังที่ตลาดที่เราเคยเห็นไปในปี 2013 เมื่อนายธนาคารกลางที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกพยายามปิดก๊อกน้ำ “หากเราได้เห็นความโกรธเกรี้ยวเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งทำให้เกิดความปั่นป่วนในตลาดเช่นเดียวกับในปี 2013 สิ่งนี้จะส่งผลเสียต่อ Bitcoin และตลาดคริปโต ด้วยการเคลื่อนไหวที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นของหุ้นบลูชิพ” นาย Alex Kuptsikevich นักวิเคราะห์การเงินอาวุโสที่ FxPro กล่าวทางอีเมลพร้อมชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของ Bitcoin กับตลาดหุ้นแบบดั้งเดิม แม้ว่านาย Powell จะบอกใบ้แล้วนัย ๆ แล้วว่า Fed กำลังจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ แต่ถึงกระนั้น Bitcoin ก็พบว่ามันอยู่ในโลกของอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงเป็นระยะเวลานานและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ระดับล่างสุดก็อาจฟังดูน่าสนใจน้อยลง หากเมื่อเทียบกับผลตอบแทนของ Bitcoin ในอดีตที่ผ่าน ๆ มา

กดอ่านข่าว นักวิเคราะห์เตือนนักเทรด Bitcoin ระวังผลกระทบด้านนโยบายคลังของ Fed ที่อาจจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ต่อที่ Siam Blockchain