简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทความนี้จะแนะนำวิธีการวิเคราะห์ที่สำคัญ 3 วิธีในการการเทรด Forex ถึงอย่างไรไม่มีข้อสรุปว่าการวิเคราะห์ใดดีกว่ากัน แต่เทรดเดอร์ ต้องเข้าใจทั้งสามวิธีและค้นหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
WikiFX Strategy (7 ม.ค. ) - บทความนี้จะแนะนำวิธีการวิเคราะห์ที่สำคัญ 3 วิธีในการการเทรด Forex ถึงอย่างไรไม่มีข้อสรุปว่าการวิเคราะห์ใดดีกว่ากัน แต่เทรดเดอร์
ต้องเข้าใจทั้งสามวิธีและค้นหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
1. การวิเคราะห์ทางเทคนิค: เป็นกรอบสำหรับเทรดเดอร์ในการศึกษาการเคลื่อนไหวของราคา เทรดเดอร์ต้องจะวิเคราะห์กราฟและดูข้อมูลในอดีตเพื่อทำนายแน
โน้มในอนาคต ตัวชี้วัดหลักของการวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แก่ K-line ค่าเฉลี่ยเคลื่อนไหวของกราฟ Bollinger Bandหรือเรียกว่าสถิติ เป็นต้น
2. การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน: ปัจจัยพื้นฐานหมายถึงองค์ประกอบหลักที่มีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศและการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน เทรดเดอร์คาดการณ์การ
เปลี่ยนแปลงของราคาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและแนวโน้มของตลาดโดยการวิเคราะห์ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจการตัดสินใจของรัฐบาลและเหตุการณ์ต่างๆ เช่น
ประกาศตัวเลข GDP ตัวเลขแรงงาน ข่าวโควิด หรือดูได้บนแอป WikiFX กดที่ปฏิทินการเงิน
3. การวิเคราะห์ความเชื่อมั่นของตลาด: วิธีนี้คือการตัดสินแนวโน้มของตลาดโดยการวิเคราะห์ความเชื่อมั่นของตลาด หากความเชื่อมั่นของตลาดเป็นบวกแสดงว่าสภาพ
แวดล้อมของตลาดโดยรวมเป็นไปในแง่ดี อย่างไรก็ตามวิธีนี้ไม่ได้สะท้อนถึงข้อมูลตลาดทั้งหมด เทรดเดอร์จำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะใช้ความเชื่อมั่นของตลาดเป็นหนึ่งใน
ตัวบ่งชี้การซื้อขายหรือไม่
แต่ละวิธีข้างต้นมีข้อดีและข้อเสีย เทรดเดอร์สามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการเทรดได้ แต่การเรียนรู้ทั้งสามวิธีนี้ในเวลาเดียวกันจะช่วยลดความเสี่ยงได้มากที่สุด
มีอีกวิธีคือแอปพลิเคชัน WikiFX จะมีส่งบทความไปที่โทรศัพท์ของเทรดเดอร์ทุกวันเกี่ยวกับแนวโน้มคู่เงินหลัก ถ้าดูจากบทความแนวโน้มเทรดเดอร์จะเทรด Forex ได้ง่าย
ขึ้นและเข้าใจตลาดมากขึ้นเนื่องจากมีการวิเคราะห์ให้ด้วย ดังนั้นต้องโหลดแอป WikiFX ก่อนเพื่อรับแจ้งเตือน!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
จิตวิทยาการเทรด หรือ Mindset คือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การเรียนรู้กลยุทธ์หรือการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ยังต้องเรียนรู้การจัดการอารมณ์ ความกลัว ความโลภ และความอยากเอาชนะ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ Rande Howell นักจิตวิทยาการเทรดชื่อดัง แนะนำว่า การเปลี่ยนมุมมองต่อความล้มเหลว การควบคุมเสียงวิจารณ์ในใจ และการฝึกสมาธิ ช่วยให้เรารับมือกับความไม่แน่นอนในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเทรดที่ดีต้องบาลานซ์ทั้ง ความฉลาดทางปัญญา (IQ) และ ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) เพราะการเทรดไม่ใช่แค่การชนะหรือแพ้ แต่คือเกมแห่งความน่าจะเป็น ที่ต้องอาศัยสติ สมาธิ และวินัยเพื่อความสำเร็จในระยะยาว
สเปรดมีความสำคัญต่อเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์เนื่องจากมีผลต่อต้นทุนการเทรดโดยตรง สเปรดที่ต่ำช่วยลดต้นทุนและรักษากำไรได้มากขึ้น โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่เทรดบ่อยหรือในปริมาณมาก สเปรดที่สูงสามารถลดกำไรเมื่อเวลาผ่านไป เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping และ Day Trading จะไวต่อสเปรดสูง เนื่องจากอาจลดหรือทำให้กำไรหายไป การเลือกโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำจึงสำคัญ ความผันผวนของตลาดอาจทำให้สเปรดกว้างขึ้น เทรดเดอร์มักเลือกเทรดในช่วงสภาพคล่องสูงและใช้คำสั่ง Limit เพื่อลดต้นทุน สุดท้าย การเลือกโบรกเกอร์ที่มีบัญชี ECN และการหลีกเลี่ยงข่าวผันผวนช่วยจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น
บทความนี้ชวนผู้อ่านสำรวจตนเองว่ากำลังเสพติดการเทรดหรือไม่ โดยชี้ให้เห็นสัญญาณสำคัญที่แสดงถึงการเสพติด เช่น การเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่มีแผน หมกมุ่นกับการติดตามข้อมูล ละเลยกิจกรรมอื่น ๆ เทรดด้วยอารมณ์ และประสบความเครียดเมื่อไม่ได้เทรด การตระหนักถึงสัญญาณเหล่านี้จะช่วยป้องกันผลกระทบต่อการเงิน ความสัมพันธ์ และสุขภาพกายใจ
5 อุปสรรคยอดฮิต ที่นักเทรดตัวจริงต้องรู้ 1. นิสัยการผัดวันประกันพรุ่ง 2. สิ่งรบกวนการโฟกัส 3. การอยู่แต่ใน comfort zone 4. ขาดแรงบันดาลใจ 5. รับมือกับคนพลังลบไม่เป็น