简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:หนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทมส์ของอังกฤษ รายงานว่า รัฐมนตรีหลายคนของอังกฤษออกมาเตือนบรรดาซูเปอร์มาร์เก็ต ให้สต๊อกสินค้าไว้ หวั่นขาดแคลนอาหาร เนื่องจากมีความเป็นไปได้อย่างมากที่อังกฤษและสหภาพยุโรป(EU) จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากันได้ ซึ่งจะทำให้อังกฤษออกจาก EU ไปแบบไม่มีข้อตกลง (no-deal Brexit)
หนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทมส์ของอังกฤษ รายงานว่า รัฐมนตรีหลายคนของอังกฤษออกมาเตือนบรรดาซูเปอร์มาร์เก็ต ให้สต๊อกสินค้าไว้ หวั่นขาดแคลนอาหาร เนื่องจากมีความเป็นไปได้อย่างมากที่อังกฤษและสหภาพยุโรป(EU) จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากันได้ ซึ่งจะทำให้อังกฤษออกจาก EU ไปแบบไม่มีข้อตกลง (no-deal Brexit)
รายงานข่าวระบุว่า บรรดารัฐมนตรียังได้บอกกับซัพพลายเออร์ยา อุปกรณ์การแพทย์ และวัคซีนให้สต๊อกสินค้าไว้ล่วงหน้า 6 สัปดาห์ในสถานที่ที่ปลอดภัยในสหราชอาณาจักร
ซันเดย์ไทมส์รายงานด้วยว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เตรียมตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งและนั่งเป็นประธาน เพื่อวางแผนการและเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์หากอังกฤษเลือกที่จะออกจาก EU แบบไม่มีข้อตกลง
อังกฤษไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปแล้วตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา แต่อังกฤษมีเวลา 11 เดือน หรือที่เรียกว่าระยะเปลี่ยนผ่าน สำหรับการเจรจาข้อตกลงต่างๆ กับ EU ซึ่งรวมถึงข้อตกลงการค้า จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม นายจอห์นสันเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า มีแนวโน้มเป็นอย่างมากที่อังกฤษ จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหภาพยุโรป ซึ่งจะทำให้อังกฤษแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง
นายจอห์นสันกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในประเด็นการประมง และการที่ EU กำหนดข้อบังคับให้มีการลงโทษอังกฤษ หากมีการละเมิดข้อตกลง
ถ้อยแถลงของนายจอห์นสัน สอดคล้องกับนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ซึ่งระบุว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงมากกว่าที่จะบรรลุข้อตกลง
ทั้งนี้ นายจอห์นสัน และนางฟอน เดอร์ เลเยนกำหนดเส้นตายสำหรับการเจรจาในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนวันที่ 1 ม.ค.2564 ก็จะทำให้อังกฤษสูญเสียสิทธิพิเศษทางการค้ากับ EU และทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการค้าภายใต้กฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก (WTO)
อย่างไรก็ตาม ภาวะ no-deal Brexit จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ อังกฤษและยุโรป และสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดการเงิน
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ข้อสรุปของข้อตกลง Brexit ได้กระตุ้นเงินปอนด์ แต่เศรษฐกิจอังกฤษจะเต็มไปด้วยความท้าทายในปี 2564 และคาดว่า GBP/USD วันแรกของการซื้อขายเต็มรูปแบบหลังจาก Brexit สิ้นสุดลงและ GBP/USD ร่วงลง
'โควิด-เบร็กซิท'ทุบปอนด์อ่อนค่าหนัก ขณะทั่วโลกผวาไวรัสอังกฤษกลายพันธุ์
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2559 ค่าเงินปอนด์ในชั่วโมงการซื้อขายช่วงเช้าของเอเชียลดลง 6.1% ในเวลาเพียง 2 นาทีและแตะจุดต่ำสุดที่ 1.1821 นับตั้งแต่ปี 2528 ทำให้มีการชำระบัญชีจำนวนมาก
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมามีข่าวที่ไม่เอื้ออำนวยจากการเจรจาระหว่างอังกฤษ - ยุโรปและ Brexit ที่ไม่มีข้อตกลงอาจกลายเป็นความจริง โดยได้รับผลกระทบดังกล่าวทำให้เงินปอนด์ / ดอลลาร์ร่วงลงมาอยู่ที่ประมาณ 1.3250
IC Markets Global
OANDA
STARTRADER
FXTM
ATFX
HFM
IC Markets Global
OANDA
STARTRADER
FXTM
ATFX
HFM
IC Markets Global
OANDA
STARTRADER
FXTM
ATFX
HFM
IC Markets Global
OANDA
STARTRADER
FXTM
ATFX
HFM