简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
เทรดคริปโตใช้วิธีเดียวกับ Forex ได้ไหม
บทคัดย่อ:แม้ว่าตลาด Forex และตลาด Cryptocurrency จะเป็นตลาดสำหรับเทรดสกุลเงินที่สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตได้เหมือนกัน แต่ทั้งสองตลาดไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันและต่างมีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้
Cryptocurrency หรือ สกุลเงินดิจิทัล ถือเป็นรูปแบบการแลกเปลี่ยนซื้อขายสกุลเงินรูปแบบใหม่ ย้อนกลับไปในปี 2009 สกุลเงินดิจิทัลได้ผลิตเหรียญดิจิทัลเหรียญแรกนามว่า Bitcoin ขึ้น ผ่านชื่อนิรนาม Satoshi Nakamoto และในปีต่อ ๆ มาเหรียญดิจิทัลอื่น เช่น Ethereum, Ripple, Litecoin และอีกมากมายได้ถือกำเนิดขึ้น
ตลาด Cryptocurrency ถือเป็นตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่มีความผันผวน กล่าวคือ ถ้าคุณซื้อเหรียญ Bitcoin ไว้ในปี 2009 ในปี 2019 คุณสามารถมีเงินเพิ่มขึ้นเป็น 1000 เท่าจากการลงทุน ในทางกลับกัน จากราคาสูงสุดที่ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ 600,000 บาท ราคา Bitcoin สามารถตกลงมาต่ำกว่า 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ 200,000 ภายในไม่กี่เดือนได้เลยทีเดียว

ทั้งสองตลาดเกี่ยวข้องกันหรือไม่?
แม้ว่าตลาด Forex และตลาด Cryptocurrency จะเป็นตลาดสำหรับเทรดสกุลเงินที่สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตได้เหมือนกัน แต่ทั้งสองตลาดไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันและต่างมีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้
-ตลาดทั้งสองยังคงมีความผันผวนอยู่ โดยสกุลเงินต่างประเทศจำนวนมากของตลาด Forex มีความผันผวนประมาณ 0.5 - 1% ในขณะที่เหรียญอันโด่งดังของตลาด Cryptocurrency อย่าง Bitcoin มีความผันผวนราว ๆ 5 - 15% ความแตกต่างนี้ส่งผลให้แต่ละตลาดดึงดูดนักลงทุนหลากหลายประเภทเข้ามาได้
-ค่าอุปทาน หรือ ปริมาณความต้องการเสนอขายของตลาด Forex มีอยู่ไม่จำกัด เพราะตลาดนี้เป็นตลาดซื้อขายที่มีอยู่ทั่วโลก และปริมาณธนบัตรที่ใช้ในการเทรดก็มีอยู่ทุกที่และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากตลาด Cryptocurrency ที่จำนวนเหรียญดิจิทัลสำหรับการเทรดถูกสร้างมาอย่างจำกัด ทำให้ค่าของเหรียญและความต้องเป็นเจ้าของเหรียญเพิ่มขึ้น
-สกุลเงินในตลาด Forex ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนกลางที่เป็นเจ้าของสกุลเงินประเทศนั้นๆ(แต่การเล่นเหล่านี้เป็นเพียงแค่การเก็งกำไรค่าเงิน ไม่ได้ถือว่าเป็นการถือเงินต่างสกุลแต่อย่างใด) ในขณะเดียวกันตลาด Cryptocurrency เป็นตลาดแบบกระจายอำนาจ หมายความว่า ไม่มีหน่วยงานใดหรือบุคคลใดที่กำหนดทิศทางของตลาดได้และนักลงทุนก็มีสิทธิในกระเป๋าเงิน โดยปราศจากผู้ตรวจสอบเพราะตลาด Cryptocurrency ใช้กระบวนการตรวจสอบแบบ Peer-to-peer (การแลกเปลี่ยนกันโดยตรง)
-อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินของตลาด Forex สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามลักษณะของผู้บริโภคในแต่ละประเทศและการซื้อขายระหว่างประเทศ ในทางกลับกันราคาของตลาด Cryptocurrency เกิดจากอุปสงค์และอุปทานในตลาด
แล้วคนส่วนใหญ่นิยมอะไร?

ในปัจจุบัน คนทั่วไปส่วนใหญ่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศล้วนนิยมตลาด Forex กัน เพราะเป็นตลาดที่ผู้คนรู้จักและนิยมกันมานานเพราะเป็นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราที่ทุกคนรู้จักกันดี ในภายหลังเมื่อตลาด Cryptocurrency ได้เติบโตและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ผู้คนจึงเริ่มหันมาศึกษาและลงทุนเพราะเห็นประโยชน์บางอย่างที่โดดเด่นของตลาดนี้
เป็นที่รู้กันดีว่าในช่วงแรกเริ่มของทั้งสองตลาดย่อมได้รับข้อกังขาจากผู้คนและนักลงทุนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตลาดยังมีความแปลกใหม่กับผู้คน รวมทั้งผู้คนยังคงต้องการเวลาปรับตัว ซึ่งเห็นได้ชัดจากบริษัทหรือหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้องและกฏต่าง ๆ ในตลาดทั้งสอง
ตัวอย่างเช่น แต่เดิมตลาด forex เกิดขึ้นเมื่อโลกกำลังฟื้นตัวจากยุคสงคราม ทุกประเทศจึงเจรจาหารือเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่ประเทศตนเอง ภายหลังตลาด forex ได้พัฒนาจากระบบตายตัวเป็นระบบลอยตัว และเกิดการยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือแม้แต่ตลาด Cryptocurrency เองที่ยังเป็นจุดแรกเริ่มในสังคมส่วนใหญ่อยู่นั้น ยังคงมีการพัฒนาปรับระบบตลาดขึ้นเรื่อย ๆ มีบริษัทไม่น้อยที่สนใจและเป็นตัวกลางในการเทรด
กฎหมายของทั้ง 2 ตลาดในประเทศไทยเป็นอย่างไร?
สิ่งที่นักลงทุนควรจำให้ขึ้นใจ คือ ต้องศึกษาตลาดและตนเองก่อนการลงทุนด้วยความรอบคอบอยู่เสมอ เพราะไม่ว่าตลาดนั้นจะเติบโตและมีชื่อเสียงเพียงใด รูปแบบการดูแลนักลงทุนของแต่ละประเทศย่อมไม่เหมือนกัน
เมื่อไม่นานมานี้ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ชี้แจงว่าการลงทุนในตลาด Forex ผ่านระบบคอมพิวเตอร์โดยบริษัทตัวกลางของต่างประเทศนั้น ยังไม่มีกฏหมายใด ๆ ของประเทศไทยที่รองรับ ฉนั้น การลงทุนในลักษณะนี้อาจมีความเสี่ยงอย่างมากและผู้ที่ลงทุนจะไม่ได้รับการคุ้มครอง
ในขณะเดียวกัน การเทรดในตลาด Cryptocurrency ในประเทศไทยถือว่ามีความปลอดภัยสูง เพราะบริษัทตัวกลางในตลาด Cryptocurrency ถูกรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.)
การเปรียบเทียบ Forex และ Cryptocurrency ก็เหมือนการเปรียบเทียบช้อนกับตะเกียบ ที่แม้ว่าทั้งสองจะมีลักษณะการใช้งานที่เหมือนกัน หรืออาจจะสร้างด้วยโลหะที่เหมือนกัน แต่ทั้งคู่มีการทำงานและลักษณะเด่นที่แตกต่างกัน อยู่ที่ว่าผู้ใช้เข้าใจตลาดเพียงใดและสะดวกแบบใด
สุดท้ายแล้วการเทรดในตลาด Forex และตลาด Cryptocurrency ต้องมีการวางแผนที่มีประสิทธิภาพ ดังสุภาษิตที่โด่งดังของนักเทรดที่ว่า “บางครั้งตลาดกระทิงชนะ บางครั้งฝ่ายชนะก็เป็นตลาดหมี และคนที่แพ้ตลอดไม่ว่าจะอยู่ในตลาดใด คือคนที่ไม่ฉลาดรอบคอบ”

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

Divergence ไม่ใช่แค่สัญญาณกลับตัว มันคือกระจกสะท้อนจิตใจนักเทรด!
บทความนี้อธิบายความสำคัญของ Divergence Forex ในฐานะสัญญาณที่สะท้อนทั้งการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคาและจิตวิทยาตลาด Divergence เกิดเมื่อทิศทางของราคาไม่สอดคล้องกับตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น RSI หรือ MACD ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการกลับตัวหรือการต่อเนื่องของเทรนด์ การเข้าใจและใช้ Divergence ควบคู่กับแนวรับ–แนวต้านและการบริหารความเสี่ยงอย่างมีระบบ จะช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น และเทรดอย่างมีสติในตลาดที่ผันผวน

เทรดมานานแต่ไม่โตสักที? คุณอาจพลาดสิ่งง่าย ๆ ที่เทรดเดอร์เก่ง ๆ ทำทุกวัน!
บทความนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ “สมุดบันทึกการเทรด (Trading Journal)” ในการพัฒนานักเทรดจากมือสมัครเล่นสู่มืออาชีพ โดยการจดบันทึกช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจพฤติกรรมของตนเอง เห็นข้อผิดพลาดและจุดแข็งของกลยุทธ์ ปรับแนวทางให้มีระบบมากขึ้น และสร้างวินัยในการเทรดอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายแล้ว ความสำเร็จในตลาดฟอเร็กซ์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคหรือเครื่องมือ แต่ขึ้นอยู่กับ “การรู้จักเรียนรู้จากการเทรดของตัวเอง”

CPI ไม่ออก! ทำเนียบขาวเผยระบบพังเพราะชัตดาวน์ กระทบทั้งเฟดและตลาดฟอเร็กซ์
สหรัฐฯ อาจไม่สามารถเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอย่าง CPI และการจ้างงานเดือนตุลาคมได้ หลังรัฐบาลชัตดาวน์ ส่งผลให้ตลาด Forex เผชิญความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากเฟดต้องตัดสินใจโดยไม่มีข้อมูลรองรับ ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์จึงอาจเพิ่มขึ้นจากการเก็งกำไรและอารมณ์ตลาด นักเทรดควรรอบคอบ ใช้การบริหารความเสี่ยง และหลีกเลี่ยงการเทรดตามอารมณ์ในภาวะข้อมูลไม่ชัดเจน

ไม่ตามค่า CPI = พอร์ตสั่น! ทำไมนักเทรดฟอเร็กซ์ ต้องจับตาทุกเดือน
ค่า CPI (Consumer Price Index) คือตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญในตลาด Forex ซึ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ เมื่อตัวเลข CPI สูงกว่าคาด ธนาคารกลางมักปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินแข็ง และหากต่ำกว่าคาด ค่าเงินมักอ่อน นักเทรดจึงใช้ข้อมูล CPI และ Core CPI เพื่อวางแผนกลยุทธ์ ทั้งระยะสั้นและยาว ผู้ที่เข้าใจการตีความตัวเลขนี้จะสามารถใช้ข่าวเศรษฐกิจสร้างโอกาสทำกำไร และบริหารความเสี่ยงได้แม่นยำยิ่งขึ้น
WikiFX โบรกเกอร์
TMGM
JustMarkets
FXCM
Plus500
VT Markets
AVATRADE
TMGM
JustMarkets
FXCM
Plus500
VT Markets
AVATRADE
WikiFX โบรกเกอร์
TMGM
JustMarkets
FXCM
Plus500
VT Markets
AVATRADE
TMGM
JustMarkets
FXCM
Plus500
VT Markets
AVATRADE
